ศึกพรีเมียร์ ลีกอังกฤษ คืนนี้ ดาร์บี้แมตช์ ลิเวอร์พูล จะยกพลบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แนวรุกกลับมาครบรับมือ โบลตัน ด้าน สโต๊ค งานหนักชน เชลซี ส่วน จ่าฝูง อาร์เซน่อล จะบู๊ ฮัลล์
ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2551
เอฟเวอร์ตัน (9) - ลิเวอร์พูล (3)
เวลา : (18.45 น.) ทรูสปอร์ต 1 (59)
เดวิด มอยส์ กุนซือ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน จะได้ มิเกล อาร์เตต้า จอมทัพคนสำคัญฟิตกลับมาลงเล่นทันเวลา หลังจากพลาดเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่แพ้ แบล็คเบิร์น 0-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพราะมีอาการป่วย
ในราย วิคเตอร์ อนิเชเบ้ กองหน้าไนจีเรียที่เจ็บเท้ามาจากเกมยูฟ่า คัพ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ยังไม่น่าจะฟิตทันสำหรับเกมใหญ่แบบนี้ เช่นเดียวกับ สตีเว่น พีนาร์ มิดฟิลด์แอฟริกาใต้ ที่ยังไม่ได้ซ้อมแบบเต็มรูปแบบเลย นับตั้งแต่หายเจ็บนิ้วเท้ากลับมา
โทนี่ ฮิบเบิร์ต แบ็กขวาที่เพิ่งหายเจ็บเข่ากลับมา ก็ยังคงไม่พร้อมคืนสนาม หลังมีชื่อเป็นสำรองในเกมคาร์ลิ่ง คัพ แต่ก็ไม่ได้เล่น ขณะเดียวกัน คาร์โล แนช จะกลับมาเป็นมือ 2 ของ ทิม ฮาวเวิร์ด หลังจากไม่มีชื่อเกมคาร์ลิ่ง คัพ เพราะติดคัพ-ไท
ระบบการเล่น 4-5-1 ทิม ฮาวเวิร์ด เฝ้าเสา แนวรับมี ฟิล เนวิลล์, โจเซฟ โยโบ, ฟิล จาเกียลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์ แดนกลางใช้งาน มิเกล อาร์เตต้า, มารูยาน เฟลไลนี่, เซกุนโด้ กัสตีโย่, ลีออน ออสแมน, ทิม เคฮิลล์ ส่วนหน้าเป้าใช้ ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ เหมือนเดิม
ทางฝั่ง ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือหงส์แดง จะหมดสิทธิ์ใช้งานสองฟูลแบ็ก ฟาบิโอ ออเรลิโอ และ ฟิลิปป์ เดเก้น โดยรายแรกเจ็บข้อเท้า ส่วนรายหลังซี่โครงร้าวมาจากเกมคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ต้องหยุดพักประมาณ 3 สัปดาห์
สามนักเตะใหม่อย่าง ร็อบบี้ คีน, อันเดรีย ดอสเซน่า และ อัลเบิร์ต ริเอร่า มีโอกาสลงเล่นเมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ เป็นครั้งแรก ขณะที่ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ที่ซัดฟรีคิกได้ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ มีลุ้นเบียดแย่งตัวจริงคืนจาก มาร์ติน สเคอร์เทล
ตัวหลักอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม, โฆเซ่ เรน่า, เดิร์ค เค้าท์, อัลเบิร์ต ริเอร่า, ยอสซี่ เบนายูน, อัลบาโร่ อาร์เบลัว และ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ จะกลับสู่ทีมทั้งหมดหลังได้หยุดพักมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพ
ระบบการเล่น 4-4-2 โฆเซ่ เรน่า ลงเฝ้าเสา แนวรับมี อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, อันเดรีย ดอสเซน่า แดนกลางใช้ เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ยอสซี่ เบนายูน ส่วนคู่หน้า ร็อบบี้ คีน ยืนคู่ เฟร์นานโด ตอร์เรส เหมือนเดิม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอฟเวอร์ตัน (4-5-1) : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, โจเซฟ โยโบ, ฟิล จาเกียลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, มิเกล อาร์เตต้า, มารูยาน เฟลไลนี่, เซกุนโด้ กัสตีโย่, ลีออน ออสแมน, ทิม เคฮิลล์, ยาคูบู ไอเย็กเบนี่
ลิเวอร์พูล (4-4-2) : โฆเซ่ เรน่า, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, อันเดรีย ดอสเซน่า, เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ยอสซี่ เบนายูน, ร็อบบี้ คีน, เฟร์นานโด ตอร์เรส
หงส์สถิติช่วงหลังข่มทอฟฟี่ที่กูดิสัน
เกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งที่ 179 ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูล จากสถิติที่พบกันมาในอดีต หงส์แดง เป็นฝ่ายเอาชนะ 67 ครั้ง ทอฟฟี่บลูส์ เอาชนะ 56 ครั้ง และเสมอกัน 55 ครั้ง
ถ้านับเฉพาะเกมที่กูดิสัน พาร์ค นี่จะเป็นเกมที่ 90 ที่พบกัน โดยสถิติที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตัน เอาชนะไปได้ 33 ครั้ง ลิเวอร์พูล เอาชนะ 29 ครั้ง และเสมอกัน 27 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไป 8 ฤดูกาลหลังสุดที่กูดิสัน พาร์ค ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายบุกมาเก็บ 3 คะแนนได้ถึง 6 ครั้ง ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน เก็บชัยชนะได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น
ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะที่นี่ 2-1 โดย เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำก่อนจากการทำเข้าประตูตัวเองของ ซามี่ ฮูเปีย แต่ หงส์แดง ได้สองจุดโทษจาก เดิร์ค เค้าท์ พลิกชนะในนาทีสุดท้าย
ยกตอร์เรสเต็ง 1, ยาคูบูเต็ง 2 ยิงลูกแรก
เบท 365 ร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ มอบความไว้วางใจให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล เป็นเต็ง 1 ที่จะยิงประตูแรกในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ วันเสาร์นี้
ตอร์เรส ถูกยกเป็นเต็ง 1 ที่จะยิงลูกแรกด้วยราคา 4/1 (แทง 1 จ่าย 4) ตามด้วย ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ กองหน้าตัวเก่งของ เอฟเวอร์ตัน 11/2 (แทง 2 จ่าย 11) รองลงมาเป็น ร็อบบี้ คีน ศูนย์หน้าคนใหม่ของหงส์แดงที่ยังปืนฝืด 6/1 (แทง 1 จ่าย 6)
ส่วนโอกาสที่จะไม่มีผู้ทำประตูได้ก็มีสูงเช่นกัน โดย เบท 365 ออกราคาต่ำเพียงแค่ 6/1 (แทง 1 จ่าย 6) เท่ากับเต็ง 3 อย่าง ร็อบบี้ คีน ด้วย
แมนฯ ยูไนเต็ด (15) - โบลตัน (16)
เวลา : (21.00 น.) ทรูสปอร์ต 1 (59)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือปีศาจแดง โชคดีที่จะได้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ มือ 1 กลับมาเฝ้าเสา หลังจากที่หายเจ็บเข่าที่ได้รับมาจากเกมที่เสมอ เชลซี 1-1 ตั้งแต่ช่วง 30 นาทีแรก เพราะขณะเดียวกัน โทมัส คุสแซ็ค มือ 2 ดันบาดเจ็บโคนขาพอดี ทำให้เกมนี้ต้องเลื่อน เบน อามอส ที่ลงเฝ้าเสาในเกมคาร์ลิ่ง คัพ ไปแล้ว ขึ้นมาเป็นตัวสำรองของน้าซาร์
แกรี่ เนวิลล์ กัปตันทีม, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, พอล สโคลส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, เวย์น รูนี่ย์, ปาทริซ เอวร่า และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จะกลับคืนสนามทั้งหมด หลังจากได้พักมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพขณะที่ตัวหลักที่บาดเจ็บอยู่ยังมี ไมเคิ่ล คาร์ริค เจ็บข้อเท้า ต้องพักยาวถึงเดือนพฤศจิกายนเพียงคนเดียว
ข่าวดีของ เฟอร์กี้ คือ โรดริโก้ พอสเซบอน มิดฟิลด์ดาวรุ่งเลือดแซมบ้า ที่โดนเสียบอย่างรุนแรงในเกมคาร์ลิ่ง คัพ จนต้องหามออกจากสนาม และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดทั้งคืน โชคดีที่ผลการตรวจระบุว่าไม่ได้ขาหัก และไม่ได้รับบาดเจ็บหนักถึงเส้นเอ็นหัวเข่าด้วย
ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ลงเฝ้าเสา แนวรับมี แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่วนคู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ด้าน แกรี่ เม็กสัน กุนซือ โบลตัน ได้พักมาเต็มๆ เพราะไม่ได้เล่นคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ เนื่องจากตกตั้งแต่รอบ 2 ไปแล้ว เกมนี้ยังมีข่าวดีอีก คือ แกรี่ เคฮิลล์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่ง พ้นโทษแบน 3 นัดกลับมาพอดี
โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้าสวีดิช หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว และมีลุ้นเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงกลับคืนมา หลังจากต้องพักไปนานร่วมเดือน
ด้วยเหตุนี้ คนที่ต้องหลุดไปเป็นตัวสำรองคือ เอบี สโมลาเร็ค กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ ที่เพิ่งประเดิมนัดแรกไปแล้วในเกมที่แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม ในราย แม็ตต์ เทย์เลอร์ ปีกซ้าย ยังไม่พร้อมคืนสนาม เพราะอาการกระดูกนิ้วเท้าแตกยังไม่หายสนิทดี
ระบบการเล่น 4-4-2 ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ลงเฝ้าเสา แนวรับมี เกรตาร์ สไตน์สสัน, แอนดี้ โอไบรอัน, แกรี่ เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล แดนกลางใช้ โจอี้ โอไบรอัน, ฟาบริซ มูอัมบ้า, เควิน โนแลน, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ ส่วนคู่หน้า โยฮัน เอลมานเดอร์ ยืนคู่ เควิน เดวี่ส์
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
โบลตัน (4-4-2) : ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น, เกรตาร์ สไตน์สสัน, แอนดี้ โอไบรอัน, แกรี่ เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล, โจอี้ โอไบรอัน, ฟาบริซ มูอัมบ้า, เควิน โนแลน, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, เควิน เดวี่ส์, โยฮัน เอลมานเดอร์
ผียิ้มกริ่ม 5 ซีซั่นหลังเปิดบ้านยิงสลุตโบลตัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ดีเมื่อเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เจอกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ใน 5 ฤดูกาลหลังสุด เพราะสามารถเอาชนะได้แบบไม่ยากเย็น ด้วยสกอร์ขาดลอยแทบทั้งสิ้น
เริ่มจากฤดูกาล 2003/04 ปีศาจแดง ไล่ถล่ม 4-0 ไรอัน กิ๊กส์ ยิงคนเดียวสองประตู, ฤดูกาล 2004/05 เอาชนะนิ่มๆ 2-0 กิ๊กส์ กับ พอล สโคลส์ ช่วยกันยิงคนละลูก, ฤดูกาล 2005/06 ถล่มไปอีก 4-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหมายิงสองประตูบ้าง, ฤดูกาล 2006/07 ถล่มด้วยสกอร์เดียวกัน 4-1 พาร์ค ชี-ซอง กับ เวย์น รูนี่ย์ ซัลโวคนละสองประตู ส่วนฤดูกาลที่แล้ว โรนัลโด้ ยิงคนเดียวสองประตูตั้งแต่ต้นเกม ช่วยให้ทีมเอาชนะ 2-0
โด้เต็ง 1 ตะบันเม็ดแรก, เบิร์บเต็ง 2
แลดโบร๊คส์ ร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ เชื่อมั่นว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะซัลโวประตูแรกของเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันเสาร์นี้ หลังจากที่เพิ่งฟิตกลับมา และทำประตูแรกในซีซั่นได้แล้วในเกมคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
โรนัลโด้ ถูก แลดโบร๊คส์ ตั้งราคายิงประตูแรกต่ำที่สุดที่ 11/4 (แทง 4 จ่าย 11) ตามด้วย ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงคนใหม่ของปีศาจแดง 4/1 (แทง 1 จ่าย 4) รองลงมามีเท่ากันสองคน เวย์น รูนี่ย์ กับ คาร์ลอส เตเวซ คู่กองหน้าร่างท้วมของผีแดงเช่นกัน 9/2 (แทง 2 จ่าย 9)
ส่วนนักเตะที่มีโอกาสยิงประตูแรกสูงที่สุดของทาง โบลตัน คือ เควิน เดวี่ส์ ตั้งราคาอยู่ที่ 12/1 (แทง 1 จ่าย 12)
สโต๊ค (18) - เชลซี (2)
โทนี่ พูลิส กุนซือ สโต๊ค เตรียมปรับแนวรุกในเกมนี้ โดยจะส่ง ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ หัวหอกกลับมาเป็นตัวจริง หลังจากที่หลุดเป็นตัวสำรองในสองนัดก่อน เนื่องจากเจ็บเข่าก่อนเกมคาร์ลิ่ง คัพ และท้องเสียก่อนเกมที่เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 สุดสัปดาห์ที่แล้ว และคนที่หลุดเป็นตัวสำรองคือ มามาดี้ ซิดิเบ้
ส่วนตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ อิบราฮิม่า ซงโก้ หายเจ็บขากลับคืนทีมแล้ว และน่าจะได้เบียด ลีออน คอร์ต ลงยืนตัวจริงคู่ อับดูลาย ฟาย เลยทันที
ตัวหลักเกือบทั้งทีมที่ได้พักมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ จะกลับคืนทีมตัวจริงทั้งหมด โดยเฉพาะจอมทุ่มไกลอย่าง รอรี่ ดีแล็ป แถม ออมดี้ ฟาย ก็จะพ้นโทษแบนด้วย
ระบบการเล่น 4-4-2 โธมัส โซเรนเซ่น เฝ้าเสา แนวรับมี แอนดี้ กริฟฟิน, อับดูลาย ฟาย, อิบราฮิมา ซงโก้, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตแท่ม แดนกลางใช้ เลียม ลอว์เรนซ์, เซยี่ จอร์จ โอโลฟินยาน่า, ออมดี้ ฟาย, รอรี่ ดีแล็ป ส่วนคู่หน้า เดฟ คิตสัน ยืนคู่ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์
ด้าน หลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือ เชลซี จะชวดใช้บริการ โจ โคล มิดฟิลด์ตัวรุก ที่มีอาการบาดเจ็บกำเริบขึ้นมาเล็กน้อย และไม่ได้เดินทางไป บริทานเนีย สเตเดี้ยม ร่วมกับ เดโก้ และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ สองนักเตะโปรตุกีส
เดโก้ ยังคงรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา เช่นเดียว คาร์วัลโญ่ ที่เจ็บเข่า คาดว่าน่าจะหยุดพักประมาณ 3 สัปดาห์ทั้งคู่ ขณะที่ โจ โคล น่าจะหยุดพักราวๆ 2-3 วันก็น่าจะดีขึ้น ส่วนตัวเจ็บอื่นๆ มีเพียง มิชาเอล เอสเซียง ที่เจ็บเข่าพักยาวประมาณ 6 เดือน
จอห์น โอบี มิเกล, นิโกล่าส์ อเนลก้า, แอชลี่ย์ โคล และ โชเซ่ โบซิงวา จะกลับคืนสนามเป็นตัวจริงทั้งหมด หลังได้พักมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพที่บุกชนะ พอร์ทสมัธ 4-0
ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แนวรับมี โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางใช้งาน จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัค ส่วนแนวรุกมี ซาโลมง กาลู, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สโต๊ค (4-4-2) : โธมัส โซเรนเซ่น, แอนดี้ กริฟฟิน, อับดูลาย ฟาย, อิบราฮิมา ซงโก้, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตทอม, เลียม ลอว์เรนซ์, เซยี่ จอร์จ โอโลฟินยาน่า, ออมดี้ ฟาย, รอรี่ ดีแล็ป, เดฟ คิตสัน, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์
เชลซี (4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัค, ซาโลมง กาลู, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า
หม้อ-สิงห์หวดลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 23 ปี
สโต๊ค ซิตี้ กับ เชลซี ไม่ได้โคจรมาพบกันในลีกสูงสุดเป็นเวลานานถึง 23 ปีแล้ว หลังจากที่ฤดูกาล 1984/85 ทั้งสองทีมเจอกันในศึกดิวิชั่น 1 ซึ่งเป็นชื่อเดิม ก่อนก่อตั้งพรีเมียร์ลีก และเป็น สิงโตน้ำเงินคราม ที่ทำผลงานได้เหนือกว่า
ฤดูกาล 1984/85 เชลซี เสมอ สโต๊ค ในบ้าน 1-1 ก่อนจะบุกไปชนะที่ บริทานเนีย 1-0 หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มาเจอกันอีกในฤดูกาล 1988/89 แต่เป็นศึกดิวิชั่น 2 หรือเปรียบเป็นแชมเปี้ยนชิพในปัจจุบัน เชลซี บุกชนะก่อน 3-0 และกลับไปเปิดบ้านชนะอีก 2-1
ทั้งคู่โคจรมาพบกันในศึกลีก คัพ ฤดูกาล 1995/96 เล่นกันที่บ้าน สโต๊ค เสมอกันไป 0-0 ทำให้ต้องเตะนัดรีเพลย์ที่บ้าน เชลซี แต่เป็น สโต๊ค บุกชนะ 1-0 ครั้งสุดท้ายที่พบกันคือศึกเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2002/03 เชลซี บุกชนะ 2-0 ถึงบริทานเนีย
ดร็อกบาเต็ง 1 ยิงประตูแรกของเกม
ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวยิงทีมชาติไอวอรี่โคสต์ของ เชลซี ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ที่จะยิงประตูแรกในเกมที่ บริทานเนีย สเตเดี้ยม วันเสาร์นี้ จากการออกราคาของ สกายเบท ร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ
สกายเบท ตั้งราคาคนยิงประตูแรกต่ำที่สุดคือ ดร็อกบา แค่ 3/1 (แทง 1 จ่าย 3) เท่านั้น ตามด้วยเพื่อนร่วมทีม แฟร้งค์ แลมพาร์ด 7/2 (แทง 2 จ่าย 7) รองลงมาเป็นคู่แข่งในแดนหน้า นิโกล่าส์ อเนลก้า 4/1 (แทง 1 จ่าย 4) และ โจ โคล 9/2 (แทง 2 จ่าย 9)
ส่วนทางฝั่ง สโต๊ค เจ้าถิ่น นักเตะที่มีโอกาสมากที่สุดคือคู่กองหน้าทั้ง ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ และ เดฟ คิตสัน ถูกตั้งราคายิงประตูแรกเอาไว้เท่ากันที่ 10/1 (แทง 1 จ่าย 10)
อาร์เซน่อล (1) - ฮัลล์ (7)
เวลา : (23.30 น.) ทรูสปอร์ต 3 (61)
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล เตรียมฉลองการคุมทีมเดอะ กันเนอร์สครบรอบ 12 ปีในวันอาทิตย์นี้ ดังนั้นชัยชนะในนัดนี้จึงถือเป็นของขวัญล้ำค่าของกุนซือเฟร้นช์แมน
สภาพทีม เวนเกอร์ ยังต้องลุ้นอาการบาดเจ็บหน้าแข้งของ กาแอล กลิชี่ แบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส แต่ขณะเดียวกัน ซามีร์ นาสรี่ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมชาติยังเจ็บเข่า หมดสิทธิ์ลงเล่น
แนวรุกเตรียมส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าดัตช์ กลับคืนตัวจริง หลังไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่นาทีเดียวทั้งในเกมลีกที่ชนะ โบลตัน 3-1 และคาร์ลิ่ง คัพที่ถล่ม เชฟฯ ยูไนเต็ด 6-0
มิกาแอล ซิลแวสต์ กองหลังที่ย้ายมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีชื่ออยู่ในทีมเป็นครั้งแรก หลังจากที่หายเจ็บกล้ามเนื้อ ส่วน อเล็กซ์ ซง ดาวรุ่งที่เจ็บสะโพกมาจากเกมคาร์ลิ่ง คัพ พร้อมลงเล่นตามปกติ
ส่วนในราย อาบู ดิยาบี้ (ต้นขา), โทมัส โรซิชกี้ (เอ็นหลังหัวเข่า), อเมารี บิสชอฟฟ์ (โคนขา) และ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา (ขาหัก) ยังคงพักฟื้นอยู่เหมือนเดิม
ระบบการเล่น 4-4-2 มานูเอล อัลมูเนีย ยืนเฝ้าเสา แนวรับมี บาการี่ ซานย่า, โคโล่ ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, ธีโอ วัลค็อตต์ ส่วนคู่หน้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยืนคู่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
ด้านน้องใหม่ ฮัลล์ ซิตี้ ได้พักมาตลอดทั้งสัปดาห์ เพราะไม่มีโปรแกรม คาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ เนื่องจากตกรอบไปแล้ว แต่ข่าวร้ายคือการขาด แอนโธนี่ การ์เนอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟที่เจ็บต้นขาก่อนเกมที่เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทำให้หน้าตาของแนวรับจะยังไม่เปลี่ยนไปจากนัดก่อน คามิล ซายัตเต้ กองหลังคนใหม่ จะยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ ต่อไปเหมือนเกมที่แล้ว
จอร์จ บัวเต็ง มิดฟิลด์ตัวรับที่ลงมาเคาะสนิม 10 นาทีสุดท้ายของเกมที่แล้ว น่าจะกลับคืนตัวจริงในเกมนี้ ขณะที่ สเตลิออส ยานนาโคปูลอส ที่เพิ่งเซ็นสัญญามาหมาดๆ ยังต้องเรียกความฟิตก่อน ส่วนตัวที่เจ็บยาวมี เคร็ก เฟแกน ขาหักต้องพักถึงปีหน้า
ระบบการเล่น 4-4-2 โบซ มายฮิลล์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ พอล แม็คเชน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, คามิล ซายัตเต้, แอนดี้ ดอว์สัน แดนกลางมี แบร์กนาร์ เมนดี้, เอียน แอชบี้, จอร์จ บัวเต็ง, ปีเตอร์ ฮัลโมซี่ แนวรุกใช้ ดาเนี่ยล กูแซ็ง จับคู่ มาร์ลอน คิง
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล (4-4-2) : มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซานย่า, โคโล่ ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, ธีโอ วัลค็อตต์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
ฮัลล์ (4-4-2) : โบซ มายฮิลล์, พอล แม็คเชน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, คามิล ซายัตเต้, แอนดี้ ดอว์สัน, แบร์กนาร์ เมนดี้, เอียน แอชบี้, จอร์จ บัวเต็ง, ปีเตอร์ ฮัลโมซี่, ดาเนี่ยล กูแซ็ง, มาร์ลอน คิง
ปืนโตไม่เคยเจอเสือในลีกสูงสุดมาก่อน
จากสถิติที่ผ่านมาในอดีต อาร์เซน่อล ไม่เคยพบกับ ฮัลล์ ซิตี้ ในลีกสูงสุด มีเพียงศึกดิวิชั่น 2 (เดิม) เท่านั้น ที่ทั้งสองทีมเคยพบกันในช่วงปี 1913-1915
นอกจากศึกดิวิชั่น 2 ที่ทั้งสองทีมเคยเจอกันแล้ว ทั้งคู่ยังเคยเจอกันในศึกเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 1907/08 ซึ่ง ฮัลล์ เป็นฝ่ายเอาชนะ อาร์เซน่อล 4-1 ในนัดรีเพลย์ที่บ้าน ต่อมาเป็นฤดูกาล 1929/30 ในรอบรองชนะเลิศที่สนามเป็นกลาง อาร์เซน่อล เฉือนชนะ 1-0 ในนัดรีเพลย์ที่ วิลล่า พาร์ค
ที่เหลือมีถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ ฤดูกาล 1977/78 อาร์เซน่อล ถล่ม 5-1 ส่วนอีกครั้งซึ่งเป็นการพบกันหนล่าสุดด้วย ในฤดูกาล 1988/89 อาร์เซน่อล บุกชนะ 2-1 และกลับไปชนะที่ไฮบิวรี่อีก 3-0
บายอร์เต็ง 1 กระทุ้งเม็ดแรกตามฟอร์ม
แพดดี้ พาวเวอร์ ร้านรับพนันถูกกฏหมาย ยกให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ศูนย์หน้าตัวเก่งของ อาร์เซน่อล เป็นเต็ง 1 ยิงประตูแรกของเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม วันเสาร์นี้
อเดบายอร์ ถูกกดราคาว่าจะยิงประตูแรกของเกมเอาไว้ต่ำสุดที่ 3/1 (แทง 1 จ่าย 3) เท่านั้น ตามด้วย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ คู่ขาในแดนหน้า 7/2 (แทง 2 จ่าย 7), นิคลาส เบนท์เนอร์ 4/1 (แทง 1 จ่าย 4) และ คาร์ลอส เวล่า ซึ่งเพิ่งกดแฮตทริกมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพ 11/2 (แทง 2 จ่าย 11)
ส่วนทางฝั่ง ฮัลล์ ผู้มาเยือน แทบไม่ได้รับการจับตามองจากบรรดาร้านรับพนันเลย ที่มีโอกาสมากที่สุดคือ มาร์ลอน คิง กองหน้าที่ยืมมาจาก วีแกน ราคาสูงลิ่วถึง 14/1 (แทง 1 จ่าย 14)
โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
18.45 น. เอฟเวอร์ตัน - ลิเวอร์พูล (ทรูสปอร์ต 1 (59))
21.00 น. แอสตัน วิลล่า - ซันเดอร์แลนด์ (ทรูสปอร์ตเอ๊กตร้า 1 (66))
21.00 น. ฟูแล่ม - เวสต์แฮม (ทรูสปอร์ตเอ๊กตร้า 2 (67))
21.00 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - โบลตัน (ทรูสปอร์ต 1 (59))
21.00 น. มิดเดิ้ลสโบรช์ - เวสต์บรอมวิช
21.00 น. นิวคาสเซิ่ล - แบล็คเบิร์น (ทรูสปอร์ต 5 (63))
21.00 น. สโต๊ค - เชลซี (ทรูสปอร์ต 3 (61))
23.30 น. อาร์เซน่อล - ฮัลล์ (ทรูสปอร์ต 3 (61))
ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2551
เอฟเวอร์ตัน (9) - ลิเวอร์พูล (3)
เวลา : (18.45 น.) ทรูสปอร์ต 1 (59)
เดวิด มอยส์ กุนซือ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน จะได้ มิเกล อาร์เตต้า จอมทัพคนสำคัญฟิตกลับมาลงเล่นทันเวลา หลังจากพลาดเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่แพ้ แบล็คเบิร์น 0-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพราะมีอาการป่วย
ในราย วิคเตอร์ อนิเชเบ้ กองหน้าไนจีเรียที่เจ็บเท้ามาจากเกมยูฟ่า คัพ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ยังไม่น่าจะฟิตทันสำหรับเกมใหญ่แบบนี้ เช่นเดียวกับ สตีเว่น พีนาร์ มิดฟิลด์แอฟริกาใต้ ที่ยังไม่ได้ซ้อมแบบเต็มรูปแบบเลย นับตั้งแต่หายเจ็บนิ้วเท้ากลับมา
โทนี่ ฮิบเบิร์ต แบ็กขวาที่เพิ่งหายเจ็บเข่ากลับมา ก็ยังคงไม่พร้อมคืนสนาม หลังมีชื่อเป็นสำรองในเกมคาร์ลิ่ง คัพ แต่ก็ไม่ได้เล่น ขณะเดียวกัน คาร์โล แนช จะกลับมาเป็นมือ 2 ของ ทิม ฮาวเวิร์ด หลังจากไม่มีชื่อเกมคาร์ลิ่ง คัพ เพราะติดคัพ-ไท
ระบบการเล่น 4-5-1 ทิม ฮาวเวิร์ด เฝ้าเสา แนวรับมี ฟิล เนวิลล์, โจเซฟ โยโบ, ฟิล จาเกียลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์ แดนกลางใช้งาน มิเกล อาร์เตต้า, มารูยาน เฟลไลนี่, เซกุนโด้ กัสตีโย่, ลีออน ออสแมน, ทิม เคฮิลล์ ส่วนหน้าเป้าใช้ ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ เหมือนเดิม
ทางฝั่ง ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือหงส์แดง จะหมดสิทธิ์ใช้งานสองฟูลแบ็ก ฟาบิโอ ออเรลิโอ และ ฟิลิปป์ เดเก้น โดยรายแรกเจ็บข้อเท้า ส่วนรายหลังซี่โครงร้าวมาจากเกมคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ต้องหยุดพักประมาณ 3 สัปดาห์
สามนักเตะใหม่อย่าง ร็อบบี้ คีน, อันเดรีย ดอสเซน่า และ อัลเบิร์ต ริเอร่า มีโอกาสลงเล่นเมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ เป็นครั้งแรก ขณะที่ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ที่ซัดฟรีคิกได้ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ มีลุ้นเบียดแย่งตัวจริงคืนจาก มาร์ติน สเคอร์เทล
ตัวหลักอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม, โฆเซ่ เรน่า, เดิร์ค เค้าท์, อัลเบิร์ต ริเอร่า, ยอสซี่ เบนายูน, อัลบาโร่ อาร์เบลัว และ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ จะกลับสู่ทีมทั้งหมดหลังได้หยุดพักมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพ
ระบบการเล่น 4-4-2 โฆเซ่ เรน่า ลงเฝ้าเสา แนวรับมี อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, อันเดรีย ดอสเซน่า แดนกลางใช้ เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ยอสซี่ เบนายูน ส่วนคู่หน้า ร็อบบี้ คีน ยืนคู่ เฟร์นานโด ตอร์เรส เหมือนเดิม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอฟเวอร์ตัน (4-5-1) : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, โจเซฟ โยโบ, ฟิล จาเกียลก้า, โจลีออน เลสค็อตต์, มิเกล อาร์เตต้า, มารูยาน เฟลไลนี่, เซกุนโด้ กัสตีโย่, ลีออน ออสแมน, ทิม เคฮิลล์, ยาคูบู ไอเย็กเบนี่
ลิเวอร์พูล (4-4-2) : โฆเซ่ เรน่า, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, อันเดรีย ดอสเซน่า, เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ยอสซี่ เบนายูน, ร็อบบี้ คีน, เฟร์นานโด ตอร์เรส
หงส์สถิติช่วงหลังข่มทอฟฟี่ที่กูดิสัน
เกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งที่ 179 ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูล จากสถิติที่พบกันมาในอดีต หงส์แดง เป็นฝ่ายเอาชนะ 67 ครั้ง ทอฟฟี่บลูส์ เอาชนะ 56 ครั้ง และเสมอกัน 55 ครั้ง
ถ้านับเฉพาะเกมที่กูดิสัน พาร์ค นี่จะเป็นเกมที่ 90 ที่พบกัน โดยสถิติที่ผ่านมา เอฟเวอร์ตัน เอาชนะไปได้ 33 ครั้ง ลิเวอร์พูล เอาชนะ 29 ครั้ง และเสมอกัน 27 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไป 8 ฤดูกาลหลังสุดที่กูดิสัน พาร์ค ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายบุกมาเก็บ 3 คะแนนได้ถึง 6 ครั้ง ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน เก็บชัยชนะได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น
ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะที่นี่ 2-1 โดย เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำก่อนจากการทำเข้าประตูตัวเองของ ซามี่ ฮูเปีย แต่ หงส์แดง ได้สองจุดโทษจาก เดิร์ค เค้าท์ พลิกชนะในนาทีสุดท้าย
ยกตอร์เรสเต็ง 1, ยาคูบูเต็ง 2 ยิงลูกแรก
เบท 365 ร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ มอบความไว้วางใจให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล เป็นเต็ง 1 ที่จะยิงประตูแรกในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ วันเสาร์นี้
ตอร์เรส ถูกยกเป็นเต็ง 1 ที่จะยิงลูกแรกด้วยราคา 4/1 (แทง 1 จ่าย 4) ตามด้วย ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ กองหน้าตัวเก่งของ เอฟเวอร์ตัน 11/2 (แทง 2 จ่าย 11) รองลงมาเป็น ร็อบบี้ คีน ศูนย์หน้าคนใหม่ของหงส์แดงที่ยังปืนฝืด 6/1 (แทง 1 จ่าย 6)
ส่วนโอกาสที่จะไม่มีผู้ทำประตูได้ก็มีสูงเช่นกัน โดย เบท 365 ออกราคาต่ำเพียงแค่ 6/1 (แทง 1 จ่าย 6) เท่ากับเต็ง 3 อย่าง ร็อบบี้ คีน ด้วย
แมนฯ ยูไนเต็ด (15) - โบลตัน (16)
เวลา : (21.00 น.) ทรูสปอร์ต 1 (59)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือปีศาจแดง โชคดีที่จะได้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ มือ 1 กลับมาเฝ้าเสา หลังจากที่หายเจ็บเข่าที่ได้รับมาจากเกมที่เสมอ เชลซี 1-1 ตั้งแต่ช่วง 30 นาทีแรก เพราะขณะเดียวกัน โทมัส คุสแซ็ค มือ 2 ดันบาดเจ็บโคนขาพอดี ทำให้เกมนี้ต้องเลื่อน เบน อามอส ที่ลงเฝ้าเสาในเกมคาร์ลิ่ง คัพ ไปแล้ว ขึ้นมาเป็นตัวสำรองของน้าซาร์
แกรี่ เนวิลล์ กัปตันทีม, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, พอล สโคลส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, เวย์น รูนี่ย์, ปาทริซ เอวร่า และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จะกลับคืนสนามทั้งหมด หลังจากได้พักมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพขณะที่ตัวหลักที่บาดเจ็บอยู่ยังมี ไมเคิ่ล คาร์ริค เจ็บข้อเท้า ต้องพักยาวถึงเดือนพฤศจิกายนเพียงคนเดียว
ข่าวดีของ เฟอร์กี้ คือ โรดริโก้ พอสเซบอน มิดฟิลด์ดาวรุ่งเลือดแซมบ้า ที่โดนเสียบอย่างรุนแรงในเกมคาร์ลิ่ง คัพ จนต้องหามออกจากสนาม และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดทั้งคืน โชคดีที่ผลการตรวจระบุว่าไม่ได้ขาหัก และไม่ได้รับบาดเจ็บหนักถึงเส้นเอ็นหัวเข่าด้วย
ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ลงเฝ้าเสา แนวรับมี แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่วนคู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ด้าน แกรี่ เม็กสัน กุนซือ โบลตัน ได้พักมาเต็มๆ เพราะไม่ได้เล่นคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ เนื่องจากตกตั้งแต่รอบ 2 ไปแล้ว เกมนี้ยังมีข่าวดีอีก คือ แกรี่ เคฮิลล์ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่ง พ้นโทษแบน 3 นัดกลับมาพอดี
โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้าสวีดิช หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว และมีลุ้นเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงกลับคืนมา หลังจากต้องพักไปนานร่วมเดือน
ด้วยเหตุนี้ คนที่ต้องหลุดไปเป็นตัวสำรองคือ เอบี สโมลาเร็ค กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ ที่เพิ่งประเดิมนัดแรกไปแล้วในเกมที่แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม ในราย แม็ตต์ เทย์เลอร์ ปีกซ้าย ยังไม่พร้อมคืนสนาม เพราะอาการกระดูกนิ้วเท้าแตกยังไม่หายสนิทดี
ระบบการเล่น 4-4-2 ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ลงเฝ้าเสา แนวรับมี เกรตาร์ สไตน์สสัน, แอนดี้ โอไบรอัน, แกรี่ เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล แดนกลางใช้ โจอี้ โอไบรอัน, ฟาบริซ มูอัมบ้า, เควิน โนแลน, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ ส่วนคู่หน้า โยฮัน เอลมานเดอร์ ยืนคู่ เควิน เดวี่ส์
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
โบลตัน (4-4-2) : ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น, เกรตาร์ สไตน์สสัน, แอนดี้ โอไบรอัน, แกรี่ เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล, โจอี้ โอไบรอัน, ฟาบริซ มูอัมบ้า, เควิน โนแลน, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, เควิน เดวี่ส์, โยฮัน เอลมานเดอร์
ผียิ้มกริ่ม 5 ซีซั่นหลังเปิดบ้านยิงสลุตโบลตัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ดีเมื่อเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เจอกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ใน 5 ฤดูกาลหลังสุด เพราะสามารถเอาชนะได้แบบไม่ยากเย็น ด้วยสกอร์ขาดลอยแทบทั้งสิ้น
เริ่มจากฤดูกาล 2003/04 ปีศาจแดง ไล่ถล่ม 4-0 ไรอัน กิ๊กส์ ยิงคนเดียวสองประตู, ฤดูกาล 2004/05 เอาชนะนิ่มๆ 2-0 กิ๊กส์ กับ พอล สโคลส์ ช่วยกันยิงคนละลูก, ฤดูกาล 2005/06 ถล่มไปอีก 4-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหมายิงสองประตูบ้าง, ฤดูกาล 2006/07 ถล่มด้วยสกอร์เดียวกัน 4-1 พาร์ค ชี-ซอง กับ เวย์น รูนี่ย์ ซัลโวคนละสองประตู ส่วนฤดูกาลที่แล้ว โรนัลโด้ ยิงคนเดียวสองประตูตั้งแต่ต้นเกม ช่วยให้ทีมเอาชนะ 2-0
โด้เต็ง 1 ตะบันเม็ดแรก, เบิร์บเต็ง 2
แลดโบร๊คส์ ร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ เชื่อมั่นว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะซัลโวประตูแรกของเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันเสาร์นี้ หลังจากที่เพิ่งฟิตกลับมา และทำประตูแรกในซีซั่นได้แล้วในเกมคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
โรนัลโด้ ถูก แลดโบร๊คส์ ตั้งราคายิงประตูแรกต่ำที่สุดที่ 11/4 (แทง 4 จ่าย 11) ตามด้วย ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงคนใหม่ของปีศาจแดง 4/1 (แทง 1 จ่าย 4) รองลงมามีเท่ากันสองคน เวย์น รูนี่ย์ กับ คาร์ลอส เตเวซ คู่กองหน้าร่างท้วมของผีแดงเช่นกัน 9/2 (แทง 2 จ่าย 9)
ส่วนนักเตะที่มีโอกาสยิงประตูแรกสูงที่สุดของทาง โบลตัน คือ เควิน เดวี่ส์ ตั้งราคาอยู่ที่ 12/1 (แทง 1 จ่าย 12)
สโต๊ค (18) - เชลซี (2)
โทนี่ พูลิส กุนซือ สโต๊ค เตรียมปรับแนวรุกในเกมนี้ โดยจะส่ง ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ หัวหอกกลับมาเป็นตัวจริง หลังจากที่หลุดเป็นตัวสำรองในสองนัดก่อน เนื่องจากเจ็บเข่าก่อนเกมคาร์ลิ่ง คัพ และท้องเสียก่อนเกมที่เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 สุดสัปดาห์ที่แล้ว และคนที่หลุดเป็นตัวสำรองคือ มามาดี้ ซิดิเบ้
ส่วนตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ อิบราฮิม่า ซงโก้ หายเจ็บขากลับคืนทีมแล้ว และน่าจะได้เบียด ลีออน คอร์ต ลงยืนตัวจริงคู่ อับดูลาย ฟาย เลยทันที
ตัวหลักเกือบทั้งทีมที่ได้พักมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ จะกลับคืนทีมตัวจริงทั้งหมด โดยเฉพาะจอมทุ่มไกลอย่าง รอรี่ ดีแล็ป แถม ออมดี้ ฟาย ก็จะพ้นโทษแบนด้วย
ระบบการเล่น 4-4-2 โธมัส โซเรนเซ่น เฝ้าเสา แนวรับมี แอนดี้ กริฟฟิน, อับดูลาย ฟาย, อิบราฮิมา ซงโก้, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตแท่ม แดนกลางใช้ เลียม ลอว์เรนซ์, เซยี่ จอร์จ โอโลฟินยาน่า, ออมดี้ ฟาย, รอรี่ ดีแล็ป ส่วนคู่หน้า เดฟ คิตสัน ยืนคู่ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์
ด้าน หลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือ เชลซี จะชวดใช้บริการ โจ โคล มิดฟิลด์ตัวรุก ที่มีอาการบาดเจ็บกำเริบขึ้นมาเล็กน้อย และไม่ได้เดินทางไป บริทานเนีย สเตเดี้ยม ร่วมกับ เดโก้ และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ สองนักเตะโปรตุกีส
เดโก้ ยังคงรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา เช่นเดียว คาร์วัลโญ่ ที่เจ็บเข่า คาดว่าน่าจะหยุดพักประมาณ 3 สัปดาห์ทั้งคู่ ขณะที่ โจ โคล น่าจะหยุดพักราวๆ 2-3 วันก็น่าจะดีขึ้น ส่วนตัวเจ็บอื่นๆ มีเพียง มิชาเอล เอสเซียง ที่เจ็บเข่าพักยาวประมาณ 6 เดือน
จอห์น โอบี มิเกล, นิโกล่าส์ อเนลก้า, แอชลี่ย์ โคล และ โชเซ่ โบซิงวา จะกลับคืนสนามเป็นตัวจริงทั้งหมด หลังได้พักมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพที่บุกชนะ พอร์ทสมัธ 4-0
ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แนวรับมี โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางใช้งาน จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัค ส่วนแนวรุกมี ซาโลมง กาลู, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สโต๊ค (4-4-2) : โธมัส โซเรนเซ่น, แอนดี้ กริฟฟิน, อับดูลาย ฟาย, อิบราฮิมา ซงโก้, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตทอม, เลียม ลอว์เรนซ์, เซยี่ จอร์จ โอโลฟินยาน่า, ออมดี้ ฟาย, รอรี่ ดีแล็ป, เดฟ คิตสัน, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์
เชลซี (4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัค, ซาโลมง กาลู, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า
หม้อ-สิงห์หวดลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 23 ปี
สโต๊ค ซิตี้ กับ เชลซี ไม่ได้โคจรมาพบกันในลีกสูงสุดเป็นเวลานานถึง 23 ปีแล้ว หลังจากที่ฤดูกาล 1984/85 ทั้งสองทีมเจอกันในศึกดิวิชั่น 1 ซึ่งเป็นชื่อเดิม ก่อนก่อตั้งพรีเมียร์ลีก และเป็น สิงโตน้ำเงินคราม ที่ทำผลงานได้เหนือกว่า
ฤดูกาล 1984/85 เชลซี เสมอ สโต๊ค ในบ้าน 1-1 ก่อนจะบุกไปชนะที่ บริทานเนีย 1-0 หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มาเจอกันอีกในฤดูกาล 1988/89 แต่เป็นศึกดิวิชั่น 2 หรือเปรียบเป็นแชมเปี้ยนชิพในปัจจุบัน เชลซี บุกชนะก่อน 3-0 และกลับไปเปิดบ้านชนะอีก 2-1
ทั้งคู่โคจรมาพบกันในศึกลีก คัพ ฤดูกาล 1995/96 เล่นกันที่บ้าน สโต๊ค เสมอกันไป 0-0 ทำให้ต้องเตะนัดรีเพลย์ที่บ้าน เชลซี แต่เป็น สโต๊ค บุกชนะ 1-0 ครั้งสุดท้ายที่พบกันคือศึกเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2002/03 เชลซี บุกชนะ 2-0 ถึงบริทานเนีย
ดร็อกบาเต็ง 1 ยิงประตูแรกของเกม
ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวยิงทีมชาติไอวอรี่โคสต์ของ เชลซี ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ที่จะยิงประตูแรกในเกมที่ บริทานเนีย สเตเดี้ยม วันเสาร์นี้ จากการออกราคาของ สกายเบท ร้านรับพนันถูกกฏหมายของอังกฤษ
สกายเบท ตั้งราคาคนยิงประตูแรกต่ำที่สุดคือ ดร็อกบา แค่ 3/1 (แทง 1 จ่าย 3) เท่านั้น ตามด้วยเพื่อนร่วมทีม แฟร้งค์ แลมพาร์ด 7/2 (แทง 2 จ่าย 7) รองลงมาเป็นคู่แข่งในแดนหน้า นิโกล่าส์ อเนลก้า 4/1 (แทง 1 จ่าย 4) และ โจ โคล 9/2 (แทง 2 จ่าย 9)
ส่วนทางฝั่ง สโต๊ค เจ้าถิ่น นักเตะที่มีโอกาสมากที่สุดคือคู่กองหน้าทั้ง ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ และ เดฟ คิตสัน ถูกตั้งราคายิงประตูแรกเอาไว้เท่ากันที่ 10/1 (แทง 1 จ่าย 10)
อาร์เซน่อล (1) - ฮัลล์ (7)
เวลา : (23.30 น.) ทรูสปอร์ต 3 (61)
อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล เตรียมฉลองการคุมทีมเดอะ กันเนอร์สครบรอบ 12 ปีในวันอาทิตย์นี้ ดังนั้นชัยชนะในนัดนี้จึงถือเป็นของขวัญล้ำค่าของกุนซือเฟร้นช์แมน
สภาพทีม เวนเกอร์ ยังต้องลุ้นอาการบาดเจ็บหน้าแข้งของ กาแอล กลิชี่ แบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส แต่ขณะเดียวกัน ซามีร์ นาสรี่ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมชาติยังเจ็บเข่า หมดสิทธิ์ลงเล่น
แนวรุกเตรียมส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าดัตช์ กลับคืนตัวจริง หลังไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่นาทีเดียวทั้งในเกมลีกที่ชนะ โบลตัน 3-1 และคาร์ลิ่ง คัพที่ถล่ม เชฟฯ ยูไนเต็ด 6-0
มิกาแอล ซิลแวสต์ กองหลังที่ย้ายมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีชื่ออยู่ในทีมเป็นครั้งแรก หลังจากที่หายเจ็บกล้ามเนื้อ ส่วน อเล็กซ์ ซง ดาวรุ่งที่เจ็บสะโพกมาจากเกมคาร์ลิ่ง คัพ พร้อมลงเล่นตามปกติ
ส่วนในราย อาบู ดิยาบี้ (ต้นขา), โทมัส โรซิชกี้ (เอ็นหลังหัวเข่า), อเมารี บิสชอฟฟ์ (โคนขา) และ เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา (ขาหัก) ยังคงพักฟื้นอยู่เหมือนเดิม
ระบบการเล่น 4-4-2 มานูเอล อัลมูเนีย ยืนเฝ้าเสา แนวรับมี บาการี่ ซานย่า, โคโล่ ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลิชี่ แดนกลางมี เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, ธีโอ วัลค็อตต์ ส่วนคู่หน้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยืนคู่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
ด้านน้องใหม่ ฮัลล์ ซิตี้ ได้พักมาตลอดทั้งสัปดาห์ เพราะไม่มีโปรแกรม คาร์ลิ่ง คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ เนื่องจากตกรอบไปแล้ว แต่ข่าวร้ายคือการขาด แอนโธนี่ การ์เนอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟที่เจ็บต้นขาก่อนเกมที่เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทำให้หน้าตาของแนวรับจะยังไม่เปลี่ยนไปจากนัดก่อน คามิล ซายัตเต้ กองหลังคนใหม่ จะยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์ ต่อไปเหมือนเกมที่แล้ว
จอร์จ บัวเต็ง มิดฟิลด์ตัวรับที่ลงมาเคาะสนิม 10 นาทีสุดท้ายของเกมที่แล้ว น่าจะกลับคืนตัวจริงในเกมนี้ ขณะที่ สเตลิออส ยานนาโคปูลอส ที่เพิ่งเซ็นสัญญามาหมาดๆ ยังต้องเรียกความฟิตก่อน ส่วนตัวที่เจ็บยาวมี เคร็ก เฟแกน ขาหักต้องพักถึงปีหน้า
ระบบการเล่น 4-4-2 โบซ มายฮิลล์ ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ พอล แม็คเชน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, คามิล ซายัตเต้, แอนดี้ ดอว์สัน แดนกลางมี แบร์กนาร์ เมนดี้, เอียน แอชบี้, จอร์จ บัวเต็ง, ปีเตอร์ ฮัลโมซี่ แนวรุกใช้ ดาเนี่ยล กูแซ็ง จับคู่ มาร์ลอน คิง
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล (4-4-2) : มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซานย่า, โคโล่ ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน, เชส ฟาเบรกาส, ธีโอ วัลค็อตต์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
ฮัลล์ (4-4-2) : โบซ มายฮิลล์, พอล แม็คเชน, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, คามิล ซายัตเต้, แอนดี้ ดอว์สัน, แบร์กนาร์ เมนดี้, เอียน แอชบี้, จอร์จ บัวเต็ง, ปีเตอร์ ฮัลโมซี่, ดาเนี่ยล กูแซ็ง, มาร์ลอน คิง
ปืนโตไม่เคยเจอเสือในลีกสูงสุดมาก่อน
จากสถิติที่ผ่านมาในอดีต อาร์เซน่อล ไม่เคยพบกับ ฮัลล์ ซิตี้ ในลีกสูงสุด มีเพียงศึกดิวิชั่น 2 (เดิม) เท่านั้น ที่ทั้งสองทีมเคยพบกันในช่วงปี 1913-1915
นอกจากศึกดิวิชั่น 2 ที่ทั้งสองทีมเคยเจอกันแล้ว ทั้งคู่ยังเคยเจอกันในศึกเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 1907/08 ซึ่ง ฮัลล์ เป็นฝ่ายเอาชนะ อาร์เซน่อล 4-1 ในนัดรีเพลย์ที่บ้าน ต่อมาเป็นฤดูกาล 1929/30 ในรอบรองชนะเลิศที่สนามเป็นกลาง อาร์เซน่อล เฉือนชนะ 1-0 ในนัดรีเพลย์ที่ วิลล่า พาร์ค
ที่เหลือมีถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ ฤดูกาล 1977/78 อาร์เซน่อล ถล่ม 5-1 ส่วนอีกครั้งซึ่งเป็นการพบกันหนล่าสุดด้วย ในฤดูกาล 1988/89 อาร์เซน่อล บุกชนะ 2-1 และกลับไปชนะที่ไฮบิวรี่อีก 3-0
บายอร์เต็ง 1 กระทุ้งเม็ดแรกตามฟอร์ม
แพดดี้ พาวเวอร์ ร้านรับพนันถูกกฏหมาย ยกให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ศูนย์หน้าตัวเก่งของ อาร์เซน่อล เป็นเต็ง 1 ยิงประตูแรกของเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม วันเสาร์นี้
อเดบายอร์ ถูกกดราคาว่าจะยิงประตูแรกของเกมเอาไว้ต่ำสุดที่ 3/1 (แทง 1 จ่าย 3) เท่านั้น ตามด้วย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ คู่ขาในแดนหน้า 7/2 (แทง 2 จ่าย 7), นิคลาส เบนท์เนอร์ 4/1 (แทง 1 จ่าย 4) และ คาร์ลอส เวล่า ซึ่งเพิ่งกดแฮตทริกมาในเกมคาร์ลิ่ง คัพ 11/2 (แทง 2 จ่าย 11)
ส่วนทางฝั่ง ฮัลล์ ผู้มาเยือน แทบไม่ได้รับการจับตามองจากบรรดาร้านรับพนันเลย ที่มีโอกาสมากที่สุดคือ มาร์ลอน คิง กองหน้าที่ยืมมาจาก วีแกน ราคาสูงลิ่วถึง 14/1 (แทง 1 จ่าย 14)
โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
18.45 น. เอฟเวอร์ตัน - ลิเวอร์พูล (ทรูสปอร์ต 1 (59))
21.00 น. แอสตัน วิลล่า - ซันเดอร์แลนด์ (ทรูสปอร์ตเอ๊กตร้า 1 (66))
21.00 น. ฟูแล่ม - เวสต์แฮม (ทรูสปอร์ตเอ๊กตร้า 2 (67))
21.00 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - โบลตัน (ทรูสปอร์ต 1 (59))
21.00 น. มิดเดิ้ลสโบรช์ - เวสต์บรอมวิช
21.00 น. นิวคาสเซิ่ล - แบล็คเบิร์น (ทรูสปอร์ต 5 (63))
21.00 น. สโต๊ค - เชลซี (ทรูสปอร์ต 3 (61))
23.30 น. อาร์เซน่อล - ฮัลล์ (ทรูสปอร์ต 3 (61))
27 / 09 / 2008 17:45