buddy99 วิเคราะห์บอล
huty9988 | 25 / 04 / 2007 18:30

1900-108-102

คู่ที่ 1

 


ปรีวิวคู่นี้เพิ่มเติม

Chelsea
UEFA Champions League: Semifinals - 1st Leg
19:45 UK - Stamford Bridge 
Chelsea v Liverpool
Liverpool

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
เชลซี (อังกฤษ, 2) -vs- ลิเวอร์พูล (อังกฤษ, 3)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์, ลอนดอน
เวลา : 01.45 น.

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีมในรายการนี้
ปี       รอบ                ผลการแข่งขัน         สถานที่
2005  รอบรองฯ  เชลซี - ลิเวอร์พูล 0-0        ลอนดอน
2005  รอบรองฯ  ลิเวอร์พูล - เชลซี 1-0        ลิเวอร์พูล
2005  แบ่งกลุ่ม  ลิเวอร์พูล - เชลซี 0-0         ลิเวอร์พูล
2005  แบ่งกลุ่ม  เชลซี - ลิเวอร์พูล 0-0         ลอนดอน

เชลซี

สภาพความพร้อม

    โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสของ เชลซี สภาพทีมไม่สมบูรณ์เพราะจะขาด มิชาแอล เอสเซียง มิดฟิลด์จอมบู๊ทีมชาติกานาที่โดนโทษแบน รวมถึง อาร์เยน ร็อบเบน ปีกจรวดชาวดัตช์ที่หมดสิทธิ์ลงสนามเนื่องจากเข่ายังไม่หายเดี้ยง

     นอกจากนั้น อดีตเทรนเนอร์ผู้พาสโมสร ปอร์โต้ คว้าแชมป์รายการนี้ในฤดูกาล 2003/04 ต้องรอลุ้นว่า ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่กับ มิชาเอล บัลลัค สองนักเตะตัวสำคัญ ที่ได้รับบาดเจ็บมาจากเกมเสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะผ่านความฟิตหรือไม่ แต่มีแนวโน้มสูงว่า จอมทัพทีมชาติเยอรมัน จะชวดเกมนี้

     คาดว่า เฮียมู จะส่ง คาลิด บูลารูซ ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ลงช่วยเกมรับ กรณีที่ คาร์วัลโญ่ ไม่ผ่านความฟิต ส่วนตำแหน่งของ บัลลัค มี จอห์น โอบี มิเกล มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวไนจีเรี่ยนรอเป็นตัวสอดแทรก

     ส่วนแนวรุกไม่มีปัญหามี แฟรงค์ แลมพาร์ด คอยเดินเกมและสร้างสรรค์โอกาสให้คู่หัวหอกทั้ง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบากับ อังเดร เชฟเชนโก้ เพชฌฆาตยูเครเนี่ยนเหมือนเดิม

ผลงานเกมเหย้าที่ผ่านมาของ เชลซี
รอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีม
ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน)  2-0
ชนะ บาร์เซโลน่า (สเปน)  1-0
ชนะ เลฟสกี้ โซเฟีย (บัลแกเรีย)  2-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ชนะ เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)  2-1
รอบก่อนรองชนะเลิศ
เสมอ บาเลนเซีย (สเปน)  1-1

ลิเวอร์พูล

สภาพความพร้อม
 
    ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือเลือดสแปนิชของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สภาพทีมพร้อมสมบูรณ์สามารถจัดทัพได้อย่างเต็ม เพราะนัดนี้จะได้สองแข้งตัวกลั่นทั้ง ซาบี อลอนโซ่ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน รวมถึง เคร็ก เบลลามี่ หัวหอกเวลส์แมน ผ่านความฟิตกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง นอกจากนั้น สตีฟ ฟินแนน ฟูลแบ็กชาวไอริช ที่ไม่ได้ลงเล่นในสองเกมล่าสุดเนื่องจากเจ็บต้นคอก็พร้อมลงช่วยทีมแล้วเช่นกัน
 
    คาดว่าแมตช์นี้ "เอล ราฟา" จะเรียกบรรดาแข้งหลักที่ได้พักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้ง สตีฟ ฟินแนน, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กลับมาลงเป็น 11 ตัวจริงอีกครั้ง ขณะที่แดนหน้าส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ จับคู่กับ เดิร์ค เค้าท์ เหมือนเคย

ผลงานเกมเยือนที่ผ่านมาของ ลิเวอร์พูล
เสมอ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ฮอลแลนด์)  0-0
ชนะ บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส)   1-0
แพ้ กาลาตาซาราย (ตุรกี)   2-3
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ชนะ บาร์เซโลน่า (สเปน)   2-1
รอบก่อนรองชนะเลิศ
ชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ฮอลแลนด์)  3-0

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ (คาลิด บูลารูซ), จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, โคล้ด มาเกเลเล่, จอห์น โอบี มิเกล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, โจ โคล, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, อังเดร เชฟเชนโก้

ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรย์น่า, สตีฟ ฟินแนน, ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ซาบี อลอนโซ่, ฮาเบียร์ มาสเชราโน่, มาร์ค กอสซาเลซ (เจอร์เมน เพนแนนท์), เดิร์ค เค้าท์, ปีเตอร์ เคร้าช์


สถิติที่น่าสนใจ

*ทั้งสองทีมเคยโคจรมาเผชิญหน้ากันในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 เกม ซึ่งมีประตูเกิดขึ้นเพียงลูกเดียว ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์เฉือนชนะ เชลซี 1-0 ในรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2004/05 ก่อน "หงส์แดง" ผงาดขึ้นครองแชมป์ซีซั่นดังกล่าวในบั้นปลาย ส่วนอีกสามนัดที่เหลือจบลงด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งหมด

*ขุนพล "หงส์แดง" ชุดล้ม เชลซี ในปีดังกล่าวและปัจจุบันยังค้าแข้งอยู่กับทีมประกอบด้วย เจอร์ซี่ ดูเด็ค, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี ฮูเปีย, หลุยส์ การ์เซีย, แฮร์รี่ คีเวลล์, สตีเว่น เจอร์ราร์ดและ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่

*ส่วนนักเตะ เชลซี ที่อยู่ในทีมชุดนั้นและปัจจุบันยังอยู่กับทีมมี ปีเตอร์ เช็ก, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, โคล้ด มาเกเลเล่, อาร์เยน ร็อบเบน, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เฌเรมี่ เอ็นฌิตั๊ป, โจ โคลและ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

*แม้ว่าลูกทีมของ "เอล ราฟา" จะไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้กับ เชลซี ในเวทียุโรป แต่ทว่าหากดูกันที่สถิติการพบกันระหว่างทั้งสองทีมในศึกพรีเมียร์ชิพ ปรากฏว่า โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีมเก็บชัยได้ 5 จาก 6 และเป็นการชนะเกมเหย้าที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยที่ไม่เสียประตูด้วย

*สำหรับสถิติการพบกันในบอลถ้วย ปรากฏว่า เชลซี เคยเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 ในนัดชิงศึกคาร์ลิ่ง คัพ 2005 ส่วน "หงส์แดง" เขี่ย เชลซี ตกรอบรองชนะเลิศของศึกเอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาล 2005-2006 ด้วยสกอร์ 2-1 และสามารถเอาชนะทีมรวมดาราโลกจากกรุงลอนดอนในศึกคอมมิวนิตี้ชิลด์ เมื่อต้นซีซั่นด้วยผลการแข่งขันเดียวกัน

*สถิติการพบกันทั้งหมดในทุกรายการของทั้งสองทีมคือ 145 เกม ลิเวอร์พูล ชนะ 66 เชลซี ชนะ 50 และเสมอกัน 29

*เชลซี มีสถิติการเล่นรายการนี้อันยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ่ โดยพวกเขาเพิ่งแพ้เพียงนัดเดียวจาก 15 นัด นั่นคือเกมพ่าย บาร์เซโลน่า ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อฤดูกาลก่อนและเสียประตูใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพียง 3 ลูกจาก 10 เกมที่ผ่านมา

*ลิเวอร์พูล เพิ่งแพ้เกมเยือนยุโรปเพียงนัดเดียว นั่นคือเกมบุกพ่าย กาลาตาซาราย 2-3 ที่ ตุรกี ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเกมดังกล่าวไม่มีความหมาย เพราะขณะนั้นลูกทีมของ เบนิเตซ ได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

*นี่เป็นการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเป็นหนที่ 3 โดยสองหนก่อนหน้านี้กองเชียร์ "สิงห์บลูส์" ต้องผิดหวัง เพราะโดน โมนาโก เขี่ยตกรอบฤดูกาล 2003/04 และพ่าย ลิเวอร์พูล ในซีซั่นถัดมา

*ส่วน ลิเวอร์พูล เคยทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกมาแล้ว 8 ครั้งและมีสถิติอันยอดเยี่ยมเพราะเพิ่งเสียท่าให้คู่แข่งเพียงหนเดียวในปี 1964/65 ที่โดน อินเตอร์ มิลาน เขี่ยตกรอบ

*หาก มูรินโญ่ สามารถพาต้นสังกัดผงาดขึ้นครองแชมป์ยูซีแอลในซีซั่นนี้ เขาจะกลายเป็น กุนซือคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ลูกหนังยุโรปที่สามารถพา 2 สังกัดครองตำแหน่งเจ้ายุโรปต่อจาก แอร์นส์ ฮัปเปิ้ล (เฟเยนูร์ด 1970, ฮัมบูร์ก 1983) และ อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ (ดอร์ทมุนด์ 1997, บาเยิร์น 2001)

ทีเด็ดเซียนหมู, วิเคราะห์บอล, โปรแกรมบอล

สมาชิกโปรดล็อกอินก่อนร่วมแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรกสิคะ