สถิติที่น่าสนใจ Liverpool -vs- Chelsea
*ทั้งสองทีมเคยโคจรมาเผชิญหน้ากันในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 เกม ซึ่งมีประตูเกิดขึ้นเพียงลูกเดียว ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์เฉือนชนะ เชลซี 1-0 ในรอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2004/05 ก่อน "หงส์แดง" ผงาดขึ้นครองแชมป์ซีซั่นดังกล่าวในบั้นปลาย ส่วนอีกสามนัดที่เหลือจบลงด้วยสกอร์ 0-0 ทั้งหมด
*ขุนพล "หงส์แดง" ชุดล้ม เชลซี ในปีดังกล่าวและปัจจุบันยังค้าแข้งอยู่กับทีมประกอบด้วย เจอร์ซี่ ดูเด็ค, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี ฮูเปีย, หลุยส์ การ์เซีย, แฮร์รี่ คีเวลล์, สตีเว่น เจอร์ราร์ดและ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่
*ส่วนนักเตะ เชลซี ที่อยู่ในทีมชุดนั้นและปัจจุบันยังอยู่กับทีมมี ปีเตอร์ เช็ก, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, โคล้ด มาเกเลเล่, อาร์เยน ร็อบเบน, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เฌเรมี่ เอ็นฌิตั๊ป, โจ โคลและ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
*แม้ว่าลูกทีมของ "เอล ราฟา" จะไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้กับ เชลซี ในเวทียุโรป แต่ทว่าหากดูกันที่สถิติการพบกันระหว่างทั้งสองทีมในศึกพรีเมียร์ชิพ ปรากฏว่า โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีมเก็บชัยได้ 5 จาก 6 และเป็นการชนะเกมเหย้าที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยที่ไม่เสียประตูด้วย
*สำหรับสถิติการพบกันในบอลถ้วย ปรากฏว่า เชลซี เคยเฉือนชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 ในนัดชิงศึกคาร์ลิ่ง คัพ 2005 ส่วน "หงส์แดง" เขี่ย เชลซี ตกรอบรองชนะเลิศของศึกเอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาล 2005-2006 ด้วยสกอร์ 2-1 และสามารถเอาชนะทีมรวมดาราโลกจากกรุงลอนดอนในศึกคอมมิวนิตี้ชิลด์ เมื่อต้นซีซั่นด้วยผลการแข่งขันเดียวกัน
*สถิติการพบกันทั้งหมดในทุกรายการของทั้งสองทีมคือ 145 เกม ลิเวอร์พูล ชนะ 66 เชลซี ชนะ 50 และเสมอกัน 29
*เชลซี มีสถิติการเล่นรายการนี้อันยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ่ โดยพวกเขาเพิ่งแพ้เพียงนัดเดียวจาก 15 นัด นั่นคือเกมพ่าย บาร์เซโลน่า ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อฤดูกาลก่อนและเสียประตูใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพียง 3 ลูกจาก 10 เกมที่ผ่านมา
*ลิเวอร์พูล เพิ่งแพ้เกมเยือนยุโรปเพียงนัดเดียว นั่นคือเกมบุกพ่าย กาลาตาซาราย 2-3 ที่ ตุรกี ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเกมดังกล่าวไม่มีความหมาย เพราะขณะนั้นลูกทีมของ เบนิเตซ ได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
*นี่เป็นการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเป็นหนที่ 3 โดยสองหนก่อนหน้านี้กองเชียร์ "สิงห์บลูส์" ต้องผิดหวัง เพราะโดน โมนาโก เขี่ยตกรอบฤดูกาล 2003/04 และพ่าย ลิเวอร์พูล ในซีซั่นถัดมา
*ส่วน ลิเวอร์พูล เคยทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกมาแล้ว 8 ครั้งและมีสถิติอันยอดเยี่ยมเพราะเพิ่งเสียท่าให้คู่แข่งเพียงหนเดียวในปี 1964/65 ที่โดน อินเตอร์ มิลาน เขี่ยตกรอบ
*หาก มูรินโญ่ สามารถพาต้นสังกัดผงาดขึ้นครองแชมป์ยูซีแอลในซีซั่นนี้ เขาจะกลายเป็น กุนซือคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ลูกหนังยุโรปที่สามารถพา 2 สังกัดครองตำแหน่งเจ้ายุโรปต่อจาก แอร์นส์ ฮัปเปิ้ล (เฟเยนูร์ด 1970, ฮัมบูร์ก 1983) และ อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ (ดอร์ทมุนด์ 1997, บาเยิร์น 2001)


