สป็อตไลท์ทั้งสนามต้องจับจ้องไปที่ซีเนอดีน ซีดาน ที่จะเปิดตัวคุมทีมลงเล่นในแชมเปี้ยน์ ลีก ครั้งแรก โดยการเปิดบ้านรอรับโรม่า ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เพิ่งแต่งตั้งกุนซือคนใหม่ไม่นานเช่นกัน โดยยอดทีมจากแดนกระทิงดุ แพ้ให้กับทีมจากอิตาลีทั้งสองเลก 8 ครั้งก่อนหน้านี้
ประวัติการพบกัน
- ทั้งสองเคยพบกัน 8 ครั้ง ในการแข่งขันของยูฟ่า มาดริดชนะ 4 ครั้ง โรม่า 3 ครั้ง เสมอกันครั้งเดียว
- ครั้งล่าสุดคือช่วงปรี-ซีซั่น ที่เมลเบิร์น เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ซึ่งเป็นการคุมทีมเกมแรกของราฟา เบนิเตซ โรม่าเอาชนะจุดโทษไป 7-6 หลังเสมอในเวลา 0-0
- การพบกันในเกมทางการครั้งล่าสุดคือในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม ในปี 2007/08 โดยสปัลเล็ตติ นำทีม "หมาป่า" ชนะด้วยสกอร์ 2-1 ไปกลับ
- ในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มปี 2002/03 มาดริดที่มีซีดานอยู่ในทีม เอาชนะได้ในถิ่นสตาดิโอ โอลิมปิโก (3-0) แต่เลกที่สองต็อตติยิงประตูโทนเอาชนะไปได้ในถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว
- ดานิเอเล เด รอสซี่ ยิงประตูเปิดตัวในเกมที่มาดริดเอาชนะโรม่า 4-2 ในบ้าน รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อปี 2004/05 และบุกไปเอาชนะได้อีก 3-0 ในเกมสุดท้ายของอาชีพค้าแข้งที่ซีดานเจอกับ "จัลโลรอสซี่" (14 นัด - ชนะ 7 เสมอ 5 แพ้ 2)
สถิติที่น่าสนใจของทั้งสองทีม
โรม่า
- โรม่า กำลังหาทางพาตัวเองเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2008
- พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ตามหลังบาร์เซโลน่า แม้จะเอาชนะได้แค่นัดเดียวเท่านั้น (เปิดบ้านชนะเลเวอร์คูเซ่น 3-20)
- "จัลโลรอสซี่" แพ้บาร์เซโลน่ายับเยิน 1-6 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน และมีสถิติเกมรับแย่ที่สุดในบรรดาทีมที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
- โรม่าเสมอบาร์เซโลน่า 1-1 ในเกมแรกที่สตาดิโอ โอลิมปิโก ทำให้มีสถิติในบ้านกับทีมจากสเปนเป็น ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 5
- สถิติของโรม่าในการลงแข่งสองเลกกับทีมจากสเปนคือ ชนะ 2 แพ้ 3
เรอัล มาดริด
- หลังจากคว้าแชมป์กลุ่มเอ มาดริดก็เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้เป็นครั้งที่หกติดต่อกัน
- เจ้าของแชมป์ยุโรป 10 สมัย เป็นหนึ่งในสองทีมเท่านั้นที่ผ่านเข้ารอบมาได้โดยไม่แพ้ใครเลยในรอบแบ่งกลุ่ม
- มาดริดแม้ยูเวนตุส 1-2 ที่อิตาลีในรอบรองชนะเลิศเมื่อซีซั่นก่อน ด้วยผลสกอร์รวม 3-2
- มาดริดไม่ชนะเลยจากการบุกไปเยือนทีมอิตาลี 8 นัดล่าสุด (เสมอ 4 แพ้ 4)
- มาดริดแพ้ให้กับทีมจากอิตาลีทั้งสองเลก 8 ครั้งก่อนหน้านี้ ชัยชนะครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 1987/88 ในศึกยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยน คลับ รอบแรกกับนาโปลี (สกอร์รวม 3-1) เอมิลิโอ บูตรากูเอโน่ ที่ปัจจุบันรั้งตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา เป็นผู้ยิงประตูตีเสมอในเลกสอง