ความพ่ายแพ้คาบ้านต่อ แมนฯยูไนเต็ด 0-5 ทำเอา เลเวอร์คูเซ่น ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
เงื่อนไขการเข้ารอบ :
เรอัล โซเซียดาด - ตกรอบไปแล้ว
เลเวอร์คูเซ่น - ต้องเก็บผลการแข่งขันใน สเปน ได้ดีกว่า ชัคห์เตอร์ฯ ที่เยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวัน เวลา เดียวกัน
Match background
• เลเวอร์คูเซ่นยกพลบุกแดนกระทิงดุเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เมื่อครั้งถูก บาร์เซโลน่า เปิด คัมป์ นู ถลุงเละเทะ 7-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2011/12 ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้เละเทะที่สุดของทัพ "ห้างขายยา" ในรายการนี้ (แพ้ บาร์ซ่า สกอร์รวม 2 นัด 2-10)
• ประสบการณ์ดวลทีมสแปนิชของ เลเวอร์คูเซ่น ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันคือ ปะทะ บาเลนเซีย ในรอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2011/12 โดยสโมสรบุนเดสลีก้าเปิดบ้านเด็ดปีก "ไอ้ค้างคาว" 2-1 จากประตูชัยของ ซิดนี่ย์ แซม ที่แมตช์นี้ลงช่วยต้นสังกัดไม่ได้เพราะบาดเจ็บ แต่เลกสองโดน บาเลนเซีย ทวงแค้นคืนแบบทบต้น ทบดอก 3-1 ที่ เมสตาย่า
• ภาพรวมของ เลเวอร์คูเซ่น ในการดวลทีม ลา ลีกา คือ ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 9 ซึ่งหนสุดท้ายที่ "ห้างขายยา" ลิ้มรสชัยชนะเหนือคู่แข่งสัญชาติสเปนคือ บุกเผาเครื่อง ลา กอรุนญ่า 3-1 ถึง ริอาซอร์ สเตเดี้ยม ในรอบแบ่งกลุ่ม รอบ 2 ของฤดูกาล 2001/02 ซึ่งปีนั้น เลเวอร์ฯ เข้าลึกถึงนัดชิงชนะเลิศ ก่อนพ่าย เรอัล มาดริด ในแมตช์ชิงดำ 1-2 โดย "ราชันชุดขาว" ได้ประตูชัยจากลูกเอี้ยวตัววอลเล่ย์สุดสวยของ ซีเนอดีน ซีดาน
• ระยะหลังต้องบอกว่า เลเวอร์คูเซ่น โชว์ฟอร์มนอกบ้านบนเส้นทาง แชมเปี้ยนส์ ลีก น่าผิดหวัง ภายหลังที่คลำหาชัยชนะในฐานะทีมเยือนไม่เจอมากว่า 15 ทริป โดยหนสุดท้ายที่สโมสรบุนเดสลีก้าชนะรายการนี้นอก เยอรมัน ต้องย้อนไปปี 2002 ที่บุกทุบ มัคคาบี้ ไฮฟา 2-0 ที่อิสราเอล
• นี่เป็นครั้งแรกของ ลา เรอัล ที่ได้คิวเปิดบ้านต้อนรับคู่แข่งจากเมืองเบียร์นับตั้งแต่ฤดูกาล 1988/89 ซึ่งคราวนั้น โซเซียดาด จับติ้วชนทีมบุนเดสลีก้า 2 ด่านซ้อน โดย มิเกล ลอยนาซ กดประตูโทนพาทีมเปิดบ้านเฉือนชนะ โคโลญจน์ 1-0 ก่อนตีตั๋วเข้ารอบ 3 ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-2 แต่สุดท้าย โซเซียดาด ไปจอดป้ายในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ภายหลังที่พ่าย สตุ๊ตการ์ต ช่วงดวลจุดโทษ 2-4 หลังจากรวมผล 2 นัดผลัดกันชนะทีมละ 1-0
