ufa1919 buddy99 วิเคราะห์บอล
starta | 20 / 05 / 2013 10:57

 

หนังสือที่เธอถือมา : รสนิยมเพลง : โดย...ไพวรินทร์ ขาวงาม
๑.
‘บางทีการมีรสนิยมชนิดหนึ่ง  ก็อาจเป็นการไร้รสนิยมชนิดหนึ่ง’
                         เพื่อนพูด เมื่อเห็นรถกระบะที่ชอบเปิดเพลงเสียงดังลั่นไปตามถนน ประมาณว่าแขนข้างหนึ่งจับพวงมาลัย แขนข้างหนึ่งถือบุหรี่พาดออกมานอกรถ หรืออะไรประมาณนี้ เราเห็นกันบ่อย จนทำใจว่ามันเป็นรสนิยมอย่างหนึ่งของเขา แต่ในทำใจนั้น ย่อมอดไม่ได้ที่จะต้องบ่นแบบที่เพื่อนว่านั้น
                         ในสังคมที่อาจเคร่งเครียดด้วยเรื่องการเงินการงานการบ้านการเมือง ดูเหมือนการร้องเพลงหรือฟังเพลงจะกลายเป็นทางระบายอย่างหนึ่ง เชื่อว่าคนเราดีๆ ชั่วๆ ก็ต้องอยากร้องเพลง  ไม่ฮึมฮัมลำพังในห้องน้ำก็อาจอยากผ่านให้คนอื่นได้ยิน ผ่านเครื่องเสียง หรือคาราโอเกะ
                         อยู่ในชุมชน หลายครัวเรือน หลายวัฒนธรรม หลายจริตจิตใจ ก็ต้องได้ยินได้ฟังจากกันและกันทั้งนั้น บ้านเรามีงานบุญหรืองานเลี้ยงฉลองอะไรบ้างก็ต้องใช้เครื่องเสียง เวลาถึงทีบ้านอื่นบ้างก็ต้องทำใจ เข้าใจ ให้อภัย แม้ว่าจะต้องเจออะไรที่มากเกินไป อย่างช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บ้านที่เงียบๆ ก็อยู่ละเล่นสงกรานต์เงียบๆ บ้านที่ตั้งวงสุรายาเมาแล้วร้องเพลงคาราโอเกะแบบแหกปากตามดีกรีก็ยังมีอยู่เช้าสายบ่ายค่ำติดต่อกันหลายวัน เรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องอดทนอดกลั้นอย่างยิ่ง แม้รำคาญก็มิอาจเดินไปบอกเขาตรงๆ ว่าให้เบาหน่อย เพราะบ้านใกล้เรือนเคียงนั้น  ถึงอยู่กันมานานก็ใช่ว่าจะเป็นญาติสนิทชิดเชื้อไปเสียทั้งหมด เพียงแต่อยู่ร่วมกันไปแบบเคารพกติกาหลักๆ ไว้ และจะต้องอยู่กันไปอีกนาน
                         รสนิยมการฟังเพลงหรือร้องเพลง มันหลากแบบหลายระดับ เพื่อนคนหนึ่งเป็นครู เป็นคนชอบร้องเพลงมาก ร้องเพลงรุ่น ยอดรัก สลักใจ และ สายัณห์ สัญญา ได้ดีมาก เรียกว่าเป็นเงาเสียงได้เลย เวลามีงานบุญ งานบวช งานแต่ง งานขึ้นบ้านใหม่ เขามักรับเชิญไปร้องเพลง ผมชอบฟังเขาร้องเพลง ฟังแล้วมีความสุข ส่วนตัวที่เขามีรสนิยมร้องเพลง เขาจึงชอบซ้อมร้องเพลง จนถึงกับลงทุนทำบ้านให้มีห้องร้องเพลงเก็บเสียงได้ มีเครื่องเสียงส่วนตัวอย่างดี วันดีคืนดีเขาก็ชวนไปกินดื่ม และร้องเพลงกัน แบบนี้ผมเองยังพอเพลิดเพลินสนุกสนานไปกับเขา ด้วยรู้สึกว่าไม่เป็นการรบกวนชาวบ้านอะไรนัก ถ้าต้องแหกปากร้องเพลงไปโดยคิดว่าตัวเองฟังเสนาะสนุกสนาน แต่ข้างบ้านรำคาญ ก็คงต้องระแวงก้อนหินก้อนอิฐทีเดียว
                         บางชุมชน หลายครั้งมีเสียงวัยรุ่นซ้อมดนตรี มันดังจนรู้สึกรำคาญ ต้องทำใจลืมๆ ผ่านๆ ไป เพียงแต่รู้สึกว่าพ่อแม่ที่ซื้อเครื่องดนตรีให้ลูกซ้อมแบบเต็มวงเขาคิดอย่างไร? วัยรุ่นเหล่านั้นเขารู้สึกอย่างไร? เพื่อนบ้านที่ใกล้กว่าเขาไม่หนวกหูหรืออย่างไร? มิได้รังเกียจดนตรีการอะไรหรอก วัยรุ่นซ้อมดนตรียังจะดีกว่าไปแข่งมอเตอร์ไซค์ แต่ทำไมถึงไม่มีสำนึกในการควบคุมเสียง?
                         วันหนึ่ง ถ้าเกิดบ้านใครบ้านมัน ใครอยากซ้อมดนตรีก็ซ้อม ใครอยากร้องคาราโอเกะก็ร้อง ใครอยากแหกปากเคาะขวดแก้วชามกาละมังก็ทำ โดยไม่มีระยะเวลา หรือระดับการควบคุมเสียง รสนิยมการเสพเพลงดนตรีก็คงวิบัติวิบากอย่างแน่นอน
๒.
หลายครั้ง เคยผ่านชุมชนคาราโอเกะ หรือย่านร้านอาหารที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรีอึกทึก
                         สมัยอยู่กรุงเทพฯ เพื่อนเคยชวนจนเพริดพรายไปกับพื้นที่ที่เรียกว่า ‘อาร์ซีเอลาว’ ตรงหลักสี่ (อาร์ซีเอจริงๆ แถวพระราม ๙ ก็ผ่านมาแล้ว) พอเข้าไปในสถานที่ที่มีวิสัยทัศน์เช่นนั้น  เสียงจะดังอย่างไรก็เหมือนไม่ดัง ใครจะร้องเพลงบรรเลงขับขาน ใครจะแหกปากตะโกนระบายเครียด ใครจะเมามาย
ระบายปมขัดแย้งในใจ ก็ดูเหมือนจะฟังๆ ผ่านๆ ไปได้ ไม่รู้สึกว่าต้องอดทนอดกลั้นอะไร ไม่ชอบก็หลีกๆ ถอยๆ
 
                         แต่มีบางครั้ง ที่รู้สึกตัวเองต้องใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างคิดไม่ถึง จนเกือบสติแตก ก็คือการไปเที่ยวไกลๆ ร่วมคณะทัวร์ ก็แบบที่มักเห็นตัวรถถูกวาดไว้ด้วยรูปแปลกๆ สีสันประหลาดๆ นั่นแหละครับ 
                         เสียเงินแล้ว วางแผนการเดินทางแล้ว ก็ต้องร่วมชะตากรรมกัน แต่สิ่งที่คนขี้เบื่อขี้รำคาญและรักอิสระอย่างผมต้องเผชิญก็คือ ทั้งเที่ยวไปเที่ยวกลับต้องทนฟังคนร้องคาราโอเกะด้วยความมึนเมา ด้วยเสียงอันดัง ทั้งลำโพงก็ดันมาอยู่ใกล้หู เพลงดีๆ ซึ้งๆ และแม้บางคนร้องดี มันก็ดูเหมือนความไพเราะจะพินาศฉิบหายไปสิ้น หลายครั้งที่ร่ำๆ จะลุกไปอาละวาด ให้หยุด ให้พัก ให้เบาลง
                         โชคดีที่ยังอดทนอดกลั้นได้ ถ้าทำอย่างนั้นก็วงแตกแน่ๆ ผมรู้ว่าหลายคนในรถรู้สึกคล้ายกัน เพราะเหนื่อย ต้องการพักผ่อน แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะครับ เราจะนอน เขาจะร้องเพลง-ขอลงรถระหว่างทางก็ไม่ได้อีก...เออหนอ...เพลงหนอเพลง!




 
 
 
 
 
 
ดูบอลออนไลน์, ดูบอลสด พื้นที่โฆษณา

สมาชิกโปรดล็อกอินก่อนร่วมแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรกสิคะ