นายเคอิจิ ฟูกูดะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงที่ซาอุดีอาระเบียซึ่งมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากว่ายังไม่มีหลักฐานใดๆ บ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวนี้อาจระบาดไปในวงกว้างได้ แม้จะพบว่ามีการแพร่เชื้อระหว่างคนต่อคนแล้วก็ตาม โดยผู้จะติดเชื้อจะต้องสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยดังกล่าวต่อเนื่องเป็นเวลานาน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขคนหนึ่งเผยว่า การอยู่ใกล้ชิดหมายถึงการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยในพื้นที่คับแคบเป็นเวลานาน จะทำให้ติดเชื้อได้ เชื้อโคโรนาไวรัสอยู่ในตระกูลเดียวกับเชื่อไวรัสโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน หรือ ซาร์ส ที่คร่าชีวิตผู้ป่วยถึง 775 คน เมื่อปี 2546 เชื้อโคโรนาไวรัสพบครั้งแรกในตะวันออกกลางเมื่อปีที่แล้ว และพบผู้ป่วยในอังกฤษกับฝรั่งเศส โดยผู้ป่วยเหล่านั้นมีประวัติเดินทางไปตะวันออกกลางก่อนที่จะล้มป่วย ขณะนี้มีผู้ป่วยด้วยเชื้อโคโรนาไวรัส 34 รายทั่วโลก
นายไซอัด เมมิช รัฐมนตรีสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า ผู้ป่วยโรคดังกล่าวที่ระบาดครั้งล่าสุดในจังหวัดอัล อาซ่า 15 ราย เสียชีวิตแล้ว 9 ราย ขณะผู้ป่วยที่พบตั้งแต่ปีที่แล้วมีรวมทั้งสิ้น 24 ราย เสียชีวิตแล้ว 15 ราย ขณะที่ฝรั่งเศสก็พบผู้ป่วยด้วยไวรัสโคโรนาเป็นรายที่ 2 แล้ว กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุว่า เป็นชายวัย 65 ปี และอาการเริ่มทรุดหนักลง ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายแรกอาการเริ่มดีขึ้น ผู้ป่วยทั้งสองคนอยู่ร่วมห้องเดียวกันในโรงพยาบาลวาเลนเซียนส์ในเมีองลีลล์ ในช่วงที่ยังไม่มีการระบุว่าผู้ป่วยรายแรกติดเชื้อไวรัสโคโรนา ผู้ที่ใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งสองจำนวน 39 คนได้รับการตรวจโดยละเอียดแล้วว่าติดเชื้อหรือไม่ ผู้ป่วยรายแรกของฝรั่งเศสนี้มีประวัติเคยไปเทียวพักผ่อนที่ดูไบ ก่อนที่จะกลับมาและล้มป่วยลง
