สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวเตมาลาซิตี ประเทศกัวเตมาลา เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ว่า ศาลกัวเตมาลาตัดสินจำคุกพลเอก โฮเซ่ เอเฟรน ริออส มอนต์ อดีตจอมเผด็จการทหาร เป็นเวลา 80 ปี ตามความผิดในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ถือเป็นอดีตผู้นำประเทศคนแรกในโลก ที่ถูกตัดสินจำคุกในบ้านเกิดจากความผิดลักษณะดังกล่าว
ผู้พิพากษาหญิงจาซมิน บาร์ริออส แห่งศาลพิเศษพิจารณาคดีการเมืองของรัฐบาลกลางกัวเตมาลา ขึ้นนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ให้จำคุกพล.อ.ริออส มอนต์ ปัจจุบันอายุ 86 ปี เป็นเวลา 50 ปี ฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมายันที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของกัวเตมาลากว่า 1,700 ศพ ระหว่างปกครองประเทศเมื่อปี 2525-2526 และอีก 30 ปี ฐานก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ เนื่องจากช่วงเวลาที่พล.อ.ริออส มอนต์ ปกครองประเทศ เป็นช่วงที่กัวเตมาลากำลังเผชิญกับภาวะสงครามกลางเมืองที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2503 ก่อนจะสิ้นสุดลงเมื่อปี 2539 หรือที่เรียกกันว่า “สงคราม 36 ปี” ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตกว่า 200,000 ศพ สรุปแล้วพล.อ.ริออส มอนต์ ต้องรับโทษจำคุกรวมทั้งสิ้น 80 ปี
ทันทีที่เสร็จสิ้นการประกาศคำตัดสิน บรรดาเหยื่อที่รอดชีวิต รวมถึงญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตซึ่งเข้ามาร่วมฟังการพิจารณาคดี ต่างพากันปรบมือและร้องไห้ด้วยความดีใจ ขณะที่พล.อ.ริออส มอนต์ แสดงสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลา แม้ศาลจะปิดท้ายด้วยการยกเลิกคำสั่งควบคุมตัวเขาด้วยวิธีกักบริเวณภายในบ้านพัก และให้ส่งตัวเข้าเรือนจำกลางทันทีเลยก็ตาม ส่วนทนายความของพล.อ.ริออส มอนต์ ประกาศจะยื่นอุทธรณ์อย่างแน่นอน
ด้านนักเคลื่อนไหวในกัวเตมาลาออกมาแสดงความชื่นชมต่อผลคำตัดสินเช่นกัน โดยกล่าวว่า นอกจากจะเป็นคดีประวัติศาสตร์ของประเทศและของทวีปอเมริกาใต้แล้ว ยังถือเป็นครั้งแรกในโลกก็ว่าได้ ที่อดีตผู้นำประเทศถูกตัดสินจำคุกในดินแดนที่ตัวเองเคยปกครอง จากความผิดในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาชนของตัวเอง เนื่องจากปัจจุบันอดีตผู้นำประเทศที่มีความผิดในคดีเดียวกันนี้ จะถูกนำตัวขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ ( ไอซีซี ) ที่กรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์