ufa1919 buddy99 mvpatm168 วิเคราะห์บอล
De-sign | 01 / 05 / 2013 19:43

ค่ายนักโทษกวนตานาโมหนึ่งทศวรรษแห่งความอัปยศ 

                 11 มราคม 2545  ผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายชุดแรก 20 คนถูกพาข้ามน้ำข้ามทะเลไปคุมขังที่ฐานทัพเรือสหรัฐอันไกลโพ้นในอ่าวกวนตานาโม ที่สหรัฐเช่าจากคิวบาภายใต้สัญญาเช่าตั้งแต่ปี 2446 และเป็นวันที่โลกต้องตกตะลึงกับภาพนักโทษในชุดสีส้มสว่าง สวมกุญแจมือ และคลุมศีรษะปิดหน้าตา อยู่ในกรงขัง 

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาประกาศว่าจะปิดคุกกวนตานาโมให้สำเร็จตามที่สัญญาไว้ตอนหาเสียง โดยให้เหตุผลว่าเรือนจำแห่งนี้ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ และกำลังมีผู้ต้องขังในเรือนจำ 100 คนจากทั้งหมด 166 คน อดอาหารประท้วงกรณีที่พวกเขาถูกขังลืม โดยการอดอาหารยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 12 นับจากผู้ต้องขังคนแรกเริ่มประท้วงด้วยวิธีนี้เมื่อ 6 ก.พ.และจนถึงขณะนี้มี 21 คนที่แพทย์บังคับให้อาหารทางสายยาง โอบามาบอกว่า เขาไม่ต้องการให้บุคคลเหล่านี้เสียชีวิต 



นายโดนัลด์ รัมสเฟลด์ รัฐมนตรีกลาโหมขณะนั้น กล่าวว่า ค่ายกักนักโทษกวนตานาโม จะเป็นบ้านใหม่ของเหล่าตัวแสบที่สุดของที่สุด (worst os the worst) ถึงวันนี้ กวนตานาโมได้กลายเป็นคุกสงครามที่อยู่ยืนยงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา และกลายเป็นสัญลักษณ์ความตกต่ำสุดขีดในด้านสิทธิมนุษยชนของสหรัฐ จากสงครามต่อต้านก่อการร้ายที่สหรัฐก่อขึ้นเพื่อตอบโต้เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน   
                 ปัจจุบัน กรงขังชั่วคราวไม่มีอีกต่อไป กลายเป็นที่ร้างให้อิกัวนามาเดินเพ่นพ่านและต้นไม้ใบหญ้าเติบโต แต่เรือนจำที่สร้างแบบถาวรกว่าหลังพฤษภาคม 2545 ยังอยู่ และหลังกำแพงยังมีชาย 171 คนถูกกักอิสรภาพ จากทั้งหมด 779 คนที่เคยผ่านเข้าออกประตูในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา     

                 ผู้ที่ถูกคุมขัง มีเสรีภาพมากกว่าสมัยแรกๆ ได้อ่านหนังสือพิมพ์ และได้ดูทีวี โทรศัพท์กลับบ้านได้บ้าง และนักโทษร้อยละ 80 ได้รับอนุญาตให้พบปะสังสรรค์กันได้ที่ห้องรวม
                 แม้ผู้คุมเรือนจำกล่าวว่า พยายามปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังเหมือนเดิมคือ การถูกกักอิสรภาพแบบไม่รู้อนาคต  
                 เพียงสองวันหลังเข้ารับตำแหน่งต้นปี 2552 ประธานาธิบดีโอบามาซึ่งประกาศว่า กวนตานาโมเป็นรอยด่างของภาพลักษณ์ประเทศ สวนทางค่านิยมพื้นฐานของสหรัฐ และเป็นเครื่องมือให้อัลไกดาใช้ระดมสมุน ได้ลงนามคำสั่งประธานาธิบดี สั่งปิดคุกกวนตานาโมภายใน 1 ปี
                  แต่เพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น โอบามาส่งสัญญาณว่าการปิดคุกกวนตานาโมไม่ใช่เรื่องง่าย โดยพูดที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติในกรุงวอชิงตันว่า "ไม่มีคำตอบง่ายๆ หรือสวยงามให้ปัญหากวนตานาโม แต่บอกได้อย่างหนึ่งว่า การเสแสร้งว่าปัญหานี้จะหมดไปหากเรายอมให้ทุกอย่างคงสภาพเดิม เป็นทางออกที่ผิด"
                 รัฐบาลโอบามาพยายามบอกว่า สภาคองเกรสพยายามขัดขวางไม่ให้เป้าหมายปิดกวนตานาโมเป็นจริง แต่ก็น่าแปลกที่ประธานาธิบดีโอบามา กลับลงนามกฎหมายความมั่นคงที่เท่ากับเป็นการขัดขวางการปิดคุกกวนตานาโมไปโดยปริยายเสียเองเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 

 
 ชายแดนระหว่างฐานทัพเรือกวนตานาโมของสหรัฐฯ กับดินแดนของคิวบา

                 กฎหมายนี้ กำหนดห้ามใช้กองทุนสาธารณะเพื่อการโอนย้ายนักโทษมายังสหรัฐ ให้อำนาจกองทัพคุมขังผู้ที่ถูกจับกุมมาจากสงครามใดๆ ก็ตามอย่างไม่มีกำหนด และผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ต้องถูกพิจารณาคดีโดยคณะกรรมการพิเศษของกองทัพเท่านั้น

ความหวังที่จะปิดคุกกวนตานาโมจึงริบหรี่ออกไปทุกที      
                 ที่ผ่านมา มีนักโทษ 6 คนเท่านั้นถูกศาลทหารตัดสินว่ามีความผิด ส่วนอีก 7 คน รวมทั้งนายคาหลิด เช้ค โมฮัมเหม็ด ที่รับสารภาพว่าเป็นผู้บงการเหตุวินาศกรรม 11 กันยาฯ จะถูกนำตัวเข้ารับการพิจารณาคดีในศาลทหารในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งนี่ก็เป็นความพ่ายแพ้ของรัฐบาลโอบามาที่พยายามต่อสู้ให้พิจารณาคดีดำเนินการโดยศาลพลเรือน แต่ไม่สำเร็จ
                 นักโทษราว 89 คนพ้นข้อหาแล้ว แต่ยังเป็นปัญหาปวดหัวของรัฐบาลโอบามา ที่ไม่สามารถหาประเทศรับคนเหล่านี้ไปอยู่ได้ เพราะเกรงว่าหากส่งกลับบ้านแล้ว อาจจะถูกดำเนินคดีและถูกกดขี่ในประเทศของตัวเอง
                  อาทิ ชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุ้ยกูร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนักโทษพูดภาษาเติร์กจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน 22 คน ที่ถูกกวาดต้อนมาจากค่ายแถบภูเขาของอัฟกานิสถานหลังสหรัฐนำทัพบุกโค่นตาลีบัน ในปี 2544
                 ชาวอุ้ยกูร์ส่วนใหญ่ถูกส่งไปตั้งรกรากใหม่ในประเทศอย่างแอลเบเนีย เบอร์มิวดา ปาเลา และสวิตเซอร์แลนด์ แต่ที่เหลือ กำลังต่อสู้ในศาลสหรัฐ ให้ส่งกลับพวกเขายังถิ่นฐานบ้านเกิด
                 คาเรน กรีนเบิร์ก ผู้เชี่ยวชาญก่อการร้าย จากมหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม กล่าวว่า สหรัฐกวาดจับคนเหล่านี้มาจากอัฟกานิสถาน หรือประเทศอื่นๆ โดยไม่มีกลไกทางกฎหมายใดๆ มารองรับ จะเป็นเชลยสงครามก็ไม่ใช่ และไม่เข้าพวกอะไรสักอย่างในแง่กฎหมาย เมื่อไม่มีนโยบาย ปราศจากนิยาม สถานภาพไม่ชัด ปราศจากชื่อ ตราประทับหรือคู่มือ เจ้าหน้าที่บนฐานทัพกวนตานาโม จึงออกแบบนโยบายจัดการกับนักโทษ 300 คนแรกกันเอง
                 ด้านนายแอนโธนี ดี โรเมโร ผู้อำนวยการสหภาพเสรีภาพพลเรือนอเมริกา (เอซีแอลยู) ได้เขียนบทความลงเว็บไซต์อัล จาซีราห์ ตอนหนึ่งว่า กวนตานาโมเป็นเกาะนอกกฎหมาย ที่ผู้ต้องสงสัยสามารถถูกจับกุมคุมขังได้โดยไม่ต้องพิจารณาคดี และสอบปากคำแบบไร้ขีดจำกัดวิธีการ รวมถึงการทรมาน
                 ในความเป็นจริง นักโทษที่สหรัฐจับมาเองมีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก ส่วนมากเป็นคนที่นักรบ ชนเผ่า และเจ้าหน้าที่ของปากีสถานกับอัฟกานิสถานจับมา ก่อนนำไปขายให้สหรัฐเพื่อแลกกับค่าหัว
                 ราคาที่สหรัฐต้องจ่ายเพื่อการมีอยู่ของคุกกวนตานาโมมหาศาล ชื่อเสียงของสหรัฐในฐานะผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชนเสียหายย่อยยับเพราะการมีอยู่ของคุกกวนตานาโม พันธมิตรของสหรัฐปฏิเสธแลกเปลี่ยนข่าวกรองเพราะเกรงว่าสหรัฐจะนำไปใช้ในการพิจารณาคดีผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายอย่างไม่เป็นธรรม
                 ความเสียหายมากที่สุด ได้แก่การที่กองทัพยอมรับเองว่า ค่ายนักโทษกวนตานาโม ถูกศัตรูใช้เป็นเครื่องมือเกณฑ์สมัครพรรคพวก สร้างผู้ก่อการร้ายหน้าใหม่ได้เป็นจำนวนมากกว่าคนที่ถูกคุมขังไว้เสียอีก จึงกลายเป็นการบั่นทอนความมั่นคงมากกว่าเพิ่มความปลอดภัย 
                 ส่วนองค์กรนิรโทษกรรมสากล ออกรายงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีคุกกวนตานาโม ภายใต้ชื่อ กวนตานาโม: หนึ่งทศวรรษแห่งความเสื่อมของสิทธิมนุษยชน ระบุว่าความล้มเหลวในการปิดคุกกวนตานาโมของสหรัฐ กำลังทิ้งมรดกพิษด้านสิทธิมนุษยชน
                 รากเหง้าของปัญหา ย้อนหลังไปถึงการอิดออดไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล ดังที่สหรัฐมักคาดหวังจะเห็นจากประเทศอื่นเสมอมา

                 ร็อบ ฟรีเออร์ จากองค์การนิรโทษกรรมสากล กล่าวว่า กวนตานาโมเป็นสัญลักษณ์ของ 10 ปีแห่งการไม่เคารพหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบของสหรัฐ เพื่อตอบโต้เหตุวินาศกรรม 11 กันยา หากประเทศอื่น เปิดคุกแบบกวนตานาโมบ้าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เรื่องนี้จะต้องปรากฏอยู่ในรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนโลกประจำปีของกระทรวงต่างประเทศอย่างแน่นอน

ดูบอลออนไลน์, ดูบอลสด พื้นที่โฆษณา

สมาชิกโปรดล็อกอินก่อนร่วมแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรกสิคะ