ufa1919 buddy99 mvpatm168 วิเคราะห์บอล
De-sign | 29 / 03 / 2013 14:07

มท.เข้มสงกรานต์ 7 วันอันตราย หวังลด เจ็บ - ตาย ห้ามบรรทุกถังขึ้นกระบะเล่นสาดน้ำ สั่งล้อมคอกทำแผนบูรณาการ ขู่ร่วมดื่มขณะเดินทางแม้ไม่ขับก็ผิด

วานนี้ 28 มี.ค. 56 พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยในความปลอดภัยจึงได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมป้องกันและลดอุบัตติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเข้มงวดโดยยึดแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ภายใต้แนวคิด "สงกรานต์เป็นสุขทุกคนปลอดภัยร่วมใจรักษาวัฒนธรรม" โดยมีเป้าหมายลดจำนวนครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้น้อยที่สุด ซึ่งกำหนดเวลาในการดำเนินการช่วงควบคุมเข้มข้น ในระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2556 โดยจะยึด 6 มาตรการหลักและ 6 มาตรการเน้นหนัก เพื่อมุ่งหวังความปลอดภัยทางท้องถนนแก่ประชาชนในทุกพื้นที่
         "ในปีนี้การทำงานของศูนย์ฯจะเป็นครั้งแรกที่จะเปลี่ยนมาตรการจากการสั่งการที่ศูนย์เพื่อให้จังหวัดปฏิบัติ เป็นให้จังหวัดปรับแผนใช้เพื่อความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดออกนโยบายวางมาตรการและแนวปฏิบัติให้อำเภอและท้องถิ่นร่วมมือกันเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุแต่ละท้องที่ นอกจากนี้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในการขับรถเร็วและเมาสุราหรือบรรทุกเกินกำหนด อย่างเด็ดขาด ที่สำคัญในแผนผู้ว่าทุกจังหวัดจัดโซนนิ่งในการเล่นน้ำสงกรานต์ ห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำและสาดตามท้องถนน เนื่องจากการเกิดอันตราย เพราะมีสถิติอยู่กระทำเช่นนี้จะเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต และจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา ในฐานสร้างความเดือดร้อนหรือประมาทให้ผู้อื่นบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย ซึ่งการกำหนดโซนนิ่งให้เป็นดุลยพินิจของผู้ว่าฯ เนื่องจากแต่ละพื้นที่ในแต่ละจังหวัด จะมีสภาพลักษณะของจังหวัดและความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน เพื่อรักษาและดำรงวัฒนธรรมไทยในเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าผู้ขับขี่ที่ดื่มสุราจะมีความผิดแล้วผู้โดยสารที่ดื่มสุราในขณะเดินทางก็มีความผิดเช่นกัน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 1 หมื่นหรือทั้งจำทั้งปรับ" พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว
         ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนนระยะที่ 4(2556-2559) มุ่งส่งเสริมกลไกเชิงระบบในการยกระดับมาตรฐานและเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ให้เป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทย เพื่อพัฒนาประเทศไทยเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยทางท้องถนนในประชาคมอาเซียน
วุฒิฯจับมือ"มท.-สสส.-มูลนิธิเมาไม่ขับ"หยุดตายบนถนน
การรณรงค์ลดอุบัติเหตุนั้นทำกันทุกปี ตัวเลขการสูญเสียจากอุบัติเหตุในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 350 รายซึ่งถือเป็นตัวเลขที่คงที่ แต่ไม่สามารถลดต่ำลงกว่านี้อีกได้เลย
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นประกอบด้วย 3 ปัจจัย คือ
1.ลักษณะทางกายภาพของถนนหนทาง มาตรฐานการก่อสร้าง ความชัดเจนของป้ายจราจร
2.พฤติกรรมของผู้ขับขี่
3.การบังคับใช้กฎหมายจราจรที่เข้มงวด
สำหรับในปีนี้ อยากเห็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องบรรลุเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุและความสูญเสียบนท้องถนน พร้อมทั้งสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนคนไทยให้ได้
         การหยุดความตายนั้นไม่สามารถทำได้ แต่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดการตายก่อนเวลาอันควรจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ซึ่งข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลกการรายงานสถิติการเสียชีวิตระบุว่า อันดับ 8 ของการเสียชีวิตประชากรโลกเกิดจากอุบัติเหตุ และคาดว่าในปี 2030 จะขยับขึ้นเป็นอันดับ 5 ทั้งนี้ องค์กรสหประชาชาติได้ออกปฏิญญามอสโกขึ้นมา กำหนดให้ประเทศสมชิกลดอัตราการเสียชีวิตจากอุติเหตุบนท้องถนนให้ได้ร้อยละ 50 ภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งทางรัฐบาลได้ตอบรับและนำมาเป็นกรอบการทำงานมาตั้งแต่ปี 2553 และกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมทั้งกำหนดเป็นนโยบาย และเป้าหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ร่วมกันรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศให้มากที่สุด
มาตรการที่ทุกหน่วยงานควรดำเนินการเพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย คือ 
1.หน่วยงานภาคีเครือข่าย รัฐ เอกชน ประชาสังคม เข้าร่วมในการให้ความรู้ และแนวทางในการลดอุบัติเหตุและการสูญเสีย
2.ขับเคลื่อนนโยบายลงสู่หน่วยงานที่รับผิดชอบ
3.เพิ่มการรณรงค์ให้มากขึ้น
4. มีการพัฒนายานพาหนะในประเทศให้ได้มาตรฐานสากล
5.พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีมาตรฐานสากล ชัดเจน ถูกต้อง และ
6.มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด
         ทั้งนี้ ในงานสัมมนามีการเสวนา เรื่อง หยุดความตายบนท้องถนนได้อย่างไร ซึ่งมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายวัฒนา ภัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นพ.ทรงเกียรติ เล็กตระกูล ผอ.สำนักสาธารณะสุขฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข และนายกฤษณะ ละไล นักสื่อสารมวลชน ร่วมเป็นวิทยากร และการถอดบทเรียน หยุดความตายบนท้องถนนได้อย่างไร จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาร่วมแชร์ความรู้และและประสบการณ์การทำงานเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วย

ดูบอลออนไลน์, ดูบอลสด พื้นที่โฆษณา

สมาชิกโปรดล็อกอินก่อนร่วมแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรกสิคะ