ควันสีดำแรกที่พวยพุ่งออกจากปล่องบนหลังคาของวิหารน้อยซิสทีน เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 12 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 22.30 น. ตามเวลาในไทย เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ที่ประชุมลับหรือ คอนเคลฟ ของพระคาร์ดินัล 115 รูป จาก 48 ประเทศ ล้มเหลวในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นไปตามที่สำนักวาติกัน ประกาศไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่คาดหมายว่าจะได้องค์สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่จากการโหวตในครั้งแรก ขณะที่คริสตศาสนิกชนคาทอลิคหลายพันคน ไปรวมตัวกันที่บริเวณจตุรัสเซนต์ ปีเตอร์ ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา พวกเขาจับจ้องที่จอขนาดยักษ์จนกระทั่งประตูของวิหารน้อยปิดลง
การเลือกพระสันตะปาปา หรือ โป๊ป กระทำอย่างเป็นความลับ เมื่อประตูไม้ขนาดใหญ่และหนัก 2 บาน ค่อย ๆ ปิดลง มีเพียงพระคาร์ดินัล 115 รูป อยู่ข้างใน ทำหน้าที่โหวตเลือกผู้ที่เหมาะสม เมื่อการโหวตครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จ เหล่าพระคาร์ดินัล ก็จะแยกย้ายไปพักผ่อน ก่อนจะมาโหวตในรอบต่อไปในเช้าวันรุ่งขึ้น ที่วิหารน้อยซิสทีน โดยเริ่มต้นจากการสวดมนต์และจับจ้องไปที่ภาพเขียนสมัยเรอเนสซองซ์ ฝีมือจิตรกรเอก ไมเคิล แองเจโล
เหล่าพระคาร์ดินัล ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนลับในครั้งนี้ ล้วนมีอายุไม่ถึง 80 ปี ตามพิธีการสืบทอดมายาวนานหลายศตวรรษ เหล่าพระคาร์ดินัลจะต้องให้สัตย์ปฏิญาณว่า จะไม่แพร่งพรายสิ่งที่เกิดขึ้นในการประชุมลับสู่ภายนอก และจะต้องโดดเดี่ยวจากโลภายนอก จนกว่าจะมีผู้ได้รับคะแนนเสียง 2 ใน 3 หรือ 77 เสียง เพื่่อที่จะก้าวไปสูตำแหน่งพระประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิค องค์ที่ 266 ที่มีสาวกอยู่ทั่วโลก 1,200 ล้านคน
นับจากวันนี้เป็นต้นไป พระคาร์ดินัล จะต้องโหวตเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาถึง 4 รอบ แบ่งเป็นรอบเช้า 2 รอบ และบ่าย 2 รอบ ซึ่งบัตรลงคะแนนทั้งหมดจะต้องถูกเผาทิ้ง โดยส่งสัญญาณทางปล่องไฟของวิหารน้อยซิสทีน โดยถ้าเป็นควันสีขาว ก็แสดงว่าได้สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ แต่ถ้าเป็นควันสีดำ ก็จะต้องเลือกกันต่อไป ท่ามกลางความคาดหมายว่า อาจใช้เวลา 2-3 วัน หรืออาจจะนานถึง 5 วัน