หลวงพ่อคูณฟิตร่างกาย ปั่นจักรยานไฟฟ้าเตรียมกลับวัด หลังแพทย์ประเมินอาการดีขึ้นกว่า90เปอร์เซ็นต์
ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่เข้าพักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะปอดอักเสบ ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2555
ล่าสุดเวลา 10.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 56 นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวนิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และนายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้อนุญาตให้ลูกศิษย์และเจ้าหน้าที่พยาบาลนิมนต์หลวงพ่อคูณนั่งรถเข็นของทางโรงพยาบาลมหารานครราชสีมา ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์บริเวณหน้าห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เป็นระยะเวลานานกว่า 15 นาที
หลังจากที่อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลวงพ่อคูณ ไม่มีไข้ เสมหะลดลง คณะแพทย์ได้หยุดให้ยาปฏิชีวนะแต่ยังคงให้ยาขยายหลอดลม และยาละลายเสมหะ ซึ่งระหว่าวงที่ลูกศิษย์และเจ้าหน้าที่พยาบาลเข็นรถเข็นที่หลวงพ่อคูณนั่ง ไปรอบๆห้องหน้าผู้ป่วยหลวงพ่อคูณ มีสีหน้าที่สดชื่น อารมณ์ดีตลอดเวลา อีกทั้งหลวงพ่อคูณยังโบกมือทักทายญาติโยนและผู้สื่อข่าว ก่อนที่ลูกศิษย์พาหลวงพ่อคูณไปทำกายภาพบำบัดโดยการปั่นจักรยานไฟฟ้าภายนาห้องพัก
นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า สำหรับอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับ สำหรับอาการหลอดลมอักเสบและมีไข่ต่ำๆก็ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างไรซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศที่ไม่หนาวเย็นจนเกินไปทำให้เสมหะลดลง ซึ่งตั้งแต่ที่หลวงพ่อคูณไม่สามารถปัสสาวะได้เองนั้นคณะแพทย์ก็ได้ทำการใส่สายยางในทางเดินปัสสาวะแก่หลวงพ่อคูณ ซึ่งจากเดิมสีปัสสาวะของหลวงพ่อคูณมีสีขึ้น ล่าสุดเริ่มใส่จนเกือบเป็นปกติแล้ว ซึ่งตนยืนยันว่าปัญหาต่างๆที่อาจจะทำหลวงพ่อคูณเกิดภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันนั้น ปัจจุบันไม่ปรากฏให้เห็นอย่างแน่นอน แต่สิ่งคณะแพทย์เป็นห่วงนั้นก็ คือโรคประจำตัวของหลวงพ่อคูณหลายๆโรค เนื่องหลวงพ่อคูณอายุมากแล้วจึงทำให้อาจจะเกดภาวะต่างๆจากโรคในตัวของหลวงพ่อคูณเอง ดังนั้นคณะแพทย์ก็จะต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการรักษาในปัจจุบันของหลวงพ้อคูณ คณะแพทย์คงจะต้องรักษาเรื่องของอาการต่างๆที่อาจะแทรกซ้อนขึ้นมา โดยเฉพาะเรื่องของภาวะแทรกซ้อนในด้านระบบทางเดินหายใจ โรคปอดของหลวงพ่อคูณ ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนต่างที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ อีกทั้งคณะแพทย์ยังได้ดูแลเรื่องการฟื้นฟูร่างกายของหลวงพ่อคูณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร ที่จะต้องครบ 5 หมู่ และการออกกำลังกาย
ส่วนเรื่องการกลับวัดบ้านไร่ของหลวงพ่อคูณนั้น นพ.ณรงค์ กล่าวว่า คณะแพทย์ได้ทำการหารือกับลูกศิษย์ อีกทั้งคณะแพทย์ที่ได้ทำการรักษาหลวงพ่อคูณก็ได้มีการหารือกับคณะแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราชฯ ด้วยเช่นกัน ว่า หลวงพ่อคูณไม่มีภาวะแทรกซ้อนอีกระยะหนึ่งก็สามารถกลับวัดได้ แต่อย่างไรก็ตามก็จะต้องรอห้องพักของหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ ซึ่งห้องดังกล่าวจะเป็นห้องความดันเป็นบวก ซึ่งอากาศภายนอกจะมากกว่าอากาศภายใน ซึ่งจะทำให้การหมุนเวียนของเชื้อโรคหรืออากาศ ก็จะไหลออกจากห้องพักของหวงพ่อคูณ ซึ่งก็จะทำให้ภาวะแทรกซ้อนต่างของหลวงพ่อคูณนั้นลดน้อยลง ซึ่งก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ส่วนเรื่องที่ว่าจะกลับได้เมื่อไรอย่างแน่นอนนั้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าสภาพร่างกายของหลวงพ่อคูณนั้น เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาดังนั้นหากยืนยันว่าหลวงพ่อคูณต้องกลับวันนี้ หรืแอกลับวันนั้น แล้วเมื่อถึงกำหนดที่ต้องกลับ แต่เกิดอาหารแทรกซ้อนต่างๆก็ยิ่งจะทำให้ประชาชนที่ได้รับข่าสารอาจวิตกกังวลต่างๆนานาได้ ดังนั้นคิดว่าอีกไม่นานหลวงพ่อคูรจะสามารถกลับวัดบ้านไร่ได้
07 / 03 / 2013 20:26