ufa1919 buddy99 mvpatm168 วิเคราะห์บอล
unknow | 24 / 02 / 2013 18:20

 

 “Street Newspaper” หนังสือพิมพ์เพื่อคนจรจัด....ใช่หรือ?

The Street Newspapersคือประเภทธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprises) ให้คนเร่ร่อนตามท้องถนนเป็นผู้ขายและมีรายได้สื่อทางเลือกที่ถูกเรียกว่าStreet Newspaperจึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1989 ที่นิวยอร์ก-เมืองใหญ่ที่มีจำนวนคนจรจัดมากมายติดอันดับต้นๆ ของโลกมุ่งมั่นต้องการช่วยลดจำนวนคนผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้เหลือน้อยที่สุดด้วยการสร้างโอกาสให้คนจรจัด คนว่างงาน  และผู้มีภาระแต่ขาดโอกาสในการทำกินในสังคมให้สามารถเลี้ยงชีพได้ 

สตรีทนิวส์เปเปอร์ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Homeless Paperคือ หนังสือพิมพ์ที่คนกลุ่มหนึ่ง และองค์กรหรือมูลนิธิหนึ่งๆ จัดทำขึ้นเพื่อวางจำหน่ายตามกลไกการตลาดทุกประการ มีบรรณาธิการ มีกอง บก.ที่คอยสรรหาเรื่องราวต่างๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์มานำเสนอ ทั้งยังมีการหาสปอนเซอร์มาลงโฆษณาเพื่อต่อยอดการลงทุนหมุนเวียนต่อไปด้วย
วัตถุประสงค์หลัก

  • เพื่อให้มีทักษะรายได้และงานที่ต้องไร้ที่อยู่อาศัยและอื่น ๆ บุคคลด้อยที่ทำหน้าที่เป็นผู้ขายของและผู้ร่วมสมทบหนังสือพิมพ์มักจะ
  • เพื่อให้ความคุ้มครองของและให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความยากจนและไร้ที่อยู่อาศัย
  • เพื่อสร้างเครือข่ายทางสังคมในชุมชนที่ถูกทอดทิ้งและเด็กที่ถูกทอดทิ้งระหว่างบุคคลและผู้ให้บริการ

เนื้อหา ที่บรรจุอยู่ในสตรีทนิวส์เปเปอร์ไม่ได้นำเสนอภาพของคนจรจัดเพียงด้านเดียว แต่จะมีการนำเสนอข่าวสารของชุมชนนั้นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบันเทิงคดี หรือแม้แต่กิจกรรมที่จัดขึ้นในท้องถิ่นก็ตาม

ส่วน ต่างของผลกำไรที่ได้จากการขายสื่อทางเลือกเหล่านี้จะเป็นของคนจรจัดที่เป็น ตัวแทนจำหน่ายสื่อเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันมีรูปแบบเพิ่มเติมจากการเป็นหนังสือพิมพ์เพียงอย่างเดียว เพราะมีทั้งนิตยสารรายเดือน รายสัปดาห์ และมีเวบไซต์ให้อ่านทางอินเตอร์เนต จุดมุ่งหมายของสื่อประเภทหลังสุดไม่ได้อยู่ที่การเพิ่มยอดขาย แต่เป็นการประชาสัมพันธ์ "แนวคิด" ให้ คนในซีกโลกอื่นหยิบไปใช้ต่อตามสบาย (และอาจเป็นได้ว่าเวบไซต์คือหนทางหาแหล่งเงินทุนหรือผู้สนับสนุนออนไลน์ที่ สะดวกรวดเร็วอีกทางหนึ่ง)

สำหรับประเทศไทย นอกจากสถาบันพัฒนาประชากรของนายมีชัย วีระไวทยะเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ชัดเจนทำประโยชน์ให้ผู้คนเป็นจำนวนมากพร้อมกับมีการจ้างงานอย่างเหลือหลายแล้วนิตยสารหมอชาวบ้าน ที่ทำมา 30 ปีก็เป็นธุรกิจเพื่อสังคมทำประโยชน์เพื่อสังคมพร้อมๆกับเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่มีใครเอากำไรไปแบ่งกัน  กับการทำธุรกิจเพื่อสังคม เช่นกัน นั่นคือนิตยสาร BE” หอบหิ้วแนวคิดกลัมมาจากอังกฤษ มุ่งมั่นต้องการช่วยลดจำนวนคนผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้เหลือน้อยที่สุด

นายอารันดร์ อาชาพิลาสผู้ก่อตั้ง นิตยสาร BE เล่าว่าได้แนวคิดมาจากนิตยสาร Big Issue สมัยเรียนที่อังกฤษซึ่งมีการแจกให้คนจรจัดและผู้ลี้ภัยทางการเมืองไปขายเพื่อสร้างอาชีพ อารันดร์มองว่า ธุรกิจเพื่อสังคมเหมาะอย่างยิ่งกับประเทศไทยเพราะคนไทยเป็นชนชาติที่มีเมตตา นิยมการช่วยเหลือเกื้อกูลและการให้แต่ปัจจุบันแหล่งรับบริจาคหลายแห่งไม่มีระบบที่ชัดเจน เช่นบริจาคเงินทำบุญแล้วก็ยังไม่รู้ว่าเงินนั้นจะไปไหน ในทางตรงกันข้ามธุรกิจเพื่อสังคมจะเน้นการสร้างระบบที่ชัดเจน โปร่งใส ยกตัวอย่างเช่น BE Magazine ที่ใช้นิตยสารเป็นสื่อกลางให้ “คนได้ช่วยคน” ด้วยเงินเพียง 45 บาทต่อเดือน จากการซื้อนิตยสารหนึ่งเล่มจากนักขายยากไร้ เห็นชัดเลยว่าเป็นการช่วยทางตรง หรือแม้กระทั่งกับการสมัครสมาชิกรายปี เงิน 240 บาทจากค่าสมาชิกนั้นก็จะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิที่ผู้อ่านเลือกเองตั้งแต่แรกสมัครเมื่อผู้อ่านได้รับหนังสือ ก็จะได้รับใบเสร็จเงินบริจาคจากมูลนิธินั้นๆด้วย

 

 

“ผมว่าโมเดลธุรกิจที่ดีและโปร่งใส จะดึงคนจำนวนมากให้เข้ามาช่วยกันเพราะคนคนเดียวเปลี่ยนโลกไม่ได้ครับ ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆแต่มาจากคนจำนวนมากคืออีกวิธีที่ทำให้การแก้ปัญหาเดินเข้าใกล้ความสำเร็จเร็วขึ้น”


 

 

 

 

 

ดูบอลออนไลน์, ดูบอลสด พื้นที่โฆษณา

สมาชิกโปรดล็อกอินก่อนร่วมแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรกสิคะ