ufa1919 buddy99 mvpatm168 วิเคราะห์บอล
MoreMonq | 23 / 12 / 2012 17:05

 

 

          นับตั้งแต่ไร้เงา " เบบี้โกลด์ " ไมเคิ่ล โอเว่น และ " เดอะ ก๊อด " ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ หลังจากนั้นแอนด์ฟิลด์ก็ดูเหมือนว่าจะขาดกองหน้าที่จะยิงประตู ทะลุ 20 ลูกต่อฤดูกาล ถึงแม้จะมีหัวหอกระดับบิ๊กเนมสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เข้ามาสร้างความหวังให้แก่บรรดาแฟนๆ " เร้ด แมชชีน " แต่สุดท้ายก็กลายเป็นกองหน้าผ้าเย็นที่หาฟอร์มเก่งกันไม่เจอ
 
โอเว่น ,รัช ,ฟาวเลอร์ สามกองหน้าระดับตำนานของ " หงส์แดง "
 
          ไม่ว่าจะเป็น นิโคล่าส์ อเนลก้า ที่เคยโด่งดังกับ อาร์เซน่อล ,เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ดาวยิงที่สร้างชื่อมาจาก ศึกฟุตบอลโลกปี 2002 ,เฟร์นานโด มอริเอนเตส อดีตหัวหอกคนสำคัญทีมชาติสเปนและ เรอัล มาดริด ,ฌิบริล ซิสเซ่ ดาวซัลโวลีกเอิง 2 ฤดูกาลซ้อนจาก โอแซร์ รวมไปถึงกองหน้าที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วบนเวที พรีเมียร์ชิพ อังกฤษอย่าง ปีเตอร์ เคราช์ หัวหอกร่างโย่งและ เคร็ก เบลลามี่ หัวหอกถีบจักร หรือแม้กระทั่ง เดิร์ค เค้าท์ ดาวยิงดัตช์ที่ยิงประตูอย่างถล่มทลายสมัยอยู่ เฟเยนูร์ด 
 
เฟร์นานโด มอริเอนเตส หนึ่งในกองกองหน้าคนดังที่เอาชื่อมาทิ้งที่ แอนฟิลด์
 
          ศูนย์หน้าเกือบทุกคนที่เดินเข้ามาสู่รั้วแอนฟิลด์ ในช่วงปี 2001-2006 นั้น ต่างพากันทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง หลายคนก็ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานจนไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้เหมือนเคย ที่แย่ไปกว่านั้นบางคนถูกโยกไปเล่นในตำแหน่งอื่นที่เจ้าตัวไม่ถนัด จนเสียความเป็นกองหน้าไปโดยปริยาย ที่เห็นได้ชัดเจนคือกรณีของ เดิร์ค เค้าท์ ที่ถูก ราฟาเอล เบนิเตซ จับไปเล่นเป็นปีกขวา จนหาฟอร์มดาวยิงไม่เจอ  
 
เดิร์ค เค้าท์ ดาวซัลโวพรีเมียร์ ดัตช์ สู่ ปีกธรรมดาที่ อังกฤษ
 
          ในบางช่วงเวลาภาระหน้าที่การทำประตู กลับตกไปอยู่กับเหล่าบรรดามิดฟิลด์ของทีม หลักๆแล้วก็จะเป็นกองกลางกัปตันทีมอย่าง " สตีวี่ จี " สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งกัปตันมหัศจรรย์ผู้นี้ มักจะมีชื่อเป็นคนทำประตูสำคัญๆ อยู่ตลอด ที่ยังจำกันได้ก็คือประตูตีไข่แตก ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เอซี มิลาน ฤดูกาล 2004/05 และ ลูกตีเสมอ เวสต์แฮม 3-3 ในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอล เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2005/06 รวมทั้งลูกยิงไดนาโมช่วงท้ายเกมแมตช์ชี้ชะตาเข้ารอบยูซีแอลกับ โอลิมเปียกอส 
 
เป็นทุกอย่างของสโมสรไปแล้ว สำหรับกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด
 
          จนกระทั่งการมาถึงของ " เอล นินโญ่ " เฟร์นานโด โฆเซ่ ตอร์เรส ซานซ์  ในปี 2007 เหมือนดั่งเทพมาจุติ เมื่อฤดูกาลแรกบนแผ่นดินอังกฤษ เจ้าพายุร้าย กระหน่ำประตูไปถึง 33 ลูก และยิงเป็นไฟเพนียงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเขาเป็นคนแรกนับที่ยิงให้ ลิเวอร์พูล เกิน 20 ประตู(บอลลีก)ในฤดูกาลเดียว นับตั้งแต่การจากไปของ ฟาวเลอร์ และยังเป็นคนเดียวที่ทำเกิน 30 ประตู(ทุกรายการ) ต่อจาก "ดาวยิงปลาสเตอร์" อีกด้วย โดย ตอร์เรส กระทุ้งตาข่ายให้ " หงส์แดง " ไปทั้งหมด 65 ประตู จากการลงเล่น 102 นัด
 
" เอล นินโญ่ " เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ ณ อังกฤษ
 

          แต่ทว่าเกิดเรื่องช็อคบรรดาเดอะ ค็อปทั้งโลก เมื่อ ตอร์เรส ถูกขายไปให้กับ เชลซี ด้วยค่าตัวที่สูงที่สุดในอังกฤษ คือ 50 ล้านปอนด์หรือราวๆ 2,500 ล้านบาท ในวันที่ 31 มกราคม ปี พ.ศ. 2554 ทำให้ ลิเวอร์พูล ในช่วงนั้นต้องทำการหากองหน้าคนใหม่โดยกระทันหัน ซึ่งส้มไปหล่นที่ นิวคาสเซิ่ล เพราะทัพ " หงส์แดง " ก็ทำการติดต่อขอซื้อตัว แอนดี แคร์โรลล์ ที่ว่ากันว่าเขาจะเป็นตัวแทนของ อลัน เชียเรอร์ คนต่อไป ด้วยค่าตัวที่แพงมหาศาล ที่ 35 ล้านปอนด์ หรือราว 1,750 ล้านบาท

" บิ๊กแอนดี " ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล สู่ แอนฟลิด์ ของ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวมหาศาล
 
          ขณะเดียวกัน เคนนี่ ดัลกลิช อดีตตำนานแข้งทองของ " หงส์แดง " ที่รับหน้าที่คุมทีมในเวลานั้น ก็ได้ไปเซ็นสัญญาคว้าตัวหลุยส์ ซัวเรส หัวหอกจอมถล่มประตูทีมชาติอุรุกวัย มาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในศึกเอเรดิวิซี่ ลีก ฮอลแลนด์ ด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์หรือ 1,150 ล้านบาท ซึ่งการมาของสองดาวยิงต่างสไตล์นี้ ทำให้ความหวังของเหล่าบรรดา เดอะ ค็อป ทั่วโลกกลับมาเรืองรองอีกครั้ง เพราะกองหน้าทั้งสองคนต่างได้รับการคาดหมายว่า เป็น ศูนย์หน้าแห่งอนาคตและน่าจะเป็นการผสมผสานที่ลงตัว เพราะสไตล์ที่ต่างแต่น่าจะเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกัน
 
 
  หลุยส์ ซัวเรส เข้ามาสานต่อตำนานเบอร์ 7 แห่งถิ่น แอนฟิลด์

          หลุยส์ ซัวเรส เป็นดาวยิงประเภทคล่องแคล่ว ลากเลื้อย บุกตะลุย ทะลุทะลวง จบสกอร์เฉียบคม ส่วน " บิ๊กแอนดี้ " แอนดี้ แคร์โรลล์ เป็นหัวหอกร่างยักษ์ สูงใหญ่กำยำ ถนัดในการเล่นลูกกลางอากาศ อีกทั้งยังเท้าหนักมีลูกยิงอันทรงพลัง ซึ่งด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทำให้ทั้งคู่ได้รับการคาดหมายว่าจะช่วยกันถล่มประตูให้แก่ทัพ " เร้ด แมชชีน " ได้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
 
การมาของสองดาวยิงต่างไซส์ ทำให้เกิดความหวังใหม่ ในเหล่า เดอะ ค็อป อีกครั้ง

          แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่ทุกคนหวังไว้ เมื่อมีเพียง ซัวเรส คนเดียวที่สามารถผลิตสกอร์ให้กับ ลิเวอร์พูล ได้ แต่คู่หูอย่าง แคร์โรลล์ กลับไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งเหมือนที่เคยมีสมัยอยู่กลับ นิวคาสเซิ่ล มาได้ จนกลายเป็นที่วิจารณ์ถึงมูลค่าของเม็ดเงินที่บอร์ดบริหารอนุมัติไปซื้อเขามา ว่ามันคุ้มกันหรือไม่ ซึ่งในเวลานี้ก็เป็นที่รู้กันแล้วว่าไม่คุ้มเอาเสียเลย

 

                                                   
                                                    เคนนี่ ดัลกลิช เซ็นสัญญา ผิดพลาดครั้งมโหราฬ ในการคว้า แคร์โรลล์ ด้วยราคา 35 ล้านปอนด์
 

          ถึง ณ เวลานี้ แคร์โรลล์ ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ทั้งหมด 55 เกม ทำได้เพียง 11 ประตู และด้วยเหตุผลที่ว่า ร็อดเจอร์ส ได้ไปเซ็นสัญญาคว้าตัว ฟาบิโอ บอรินี่ หัวหอกทีมชาติอิตาลี่ มาจาก อาแอส โรม่า ยิ่งทำให้อนาคตของ " กองหน้าผมหางม้า " ในแอนฟิลด์ มืดมิดลง ซึ่งหลังจากเปิดฤดูกาล 2012-2013 ได้เพียงไม่นาน ในวันที่ 30 สิงหาคม 2012 แอนดี้ แคร์โรลล์ ถูกปล่อยให้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว พร้อมออปชั่นซื้อขาดในซัมเมอร์หน้า

 

บิ๊กแอนดี้ ต้องระเห็จไปซบทัพ " ขุนค้อน " ภายใต้การคุมทีมของ บีร็อด

          แต่ทัพ " หงส์แดง " ยังคงต้องพบกับวิบากกรรม เมื่อ บอรินี่ ได้รับบาดเจ็บมาจากเกมแดงเดือดที่หงส์แดงพ่ายให้กับ แมนฯ ยู คู่ปรับสำคัญ 1-2 จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่ช่วงพักครึ่ง ยิ่งกว่านั้น เจ้าตัวยังได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมตรงแผลเก่าถึงขั้นกระดูกเท้าหักอีกครั้ง จากการฝึกซ้อมร่วมกับทีมชาติอิตาลี ชุดยู-21 
 
ฟาบิโอ บอรินี่ หัวหอกทีมชาติอิตาลี่ ลูกน้องเก่าของ ร็อดเจอร์ส ตั้งแต่คุม สวอนซี

          อดีตหัวหอกโรม่า ต้องเข้ารับการผ่าตัดทันที หากเข้ารับการประเมินอาการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำทีมเสร็จ และคาดว่าจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูอาการเจ็บถึง 3 เดือนด้วยกันจากการบาดเจ็บของ บอรินี ส่งผลให้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ ลิเวอร์พูล เหลือกองหน้าอาชีพในทีมชุดใหญ่เพียงแค่ หลุยส์ ซัวเรส เพียงรายเดียวเท่านั้น ทำให้เขาจำเป็นต้องดึงหัวหอกจากทีมเยาวชนอย่าง อดัม มอร์แกน และซาเหม็ด เยซิล ขึ้นมาเล่นแทนเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
 
" คิงหลุยส์ " รับภาระหนักอยู่คนเดียว ในการผลิตสกอร์ให้แก่ทัพ " หงส์แดง "

          หลังจากขาดแคลนกองหน้า ลิเวอร์พูล กำลังตกเป็นข่าวกับ กองหน้าฝีเท้าดีหลายราย แต่คนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้คือ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงบ้าเลี้ยงของทัพ " สิงห์บูลส์ " เชลซี ที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือคนปัจจุบันของ " สิงโตน้ำเงินคราม " 
 
ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดกับ " หงส์แดง " ในเวลานี้

          มีรายงานข่าวล่าสุดออกมาแล้วว่า เชลซี ตกเป็นข่าวตอบรับข้อเสนอขาย ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ไปให้ "หงส์แดง"ลิเวอร์พูล ด้วยสนนราคา 12 ล้านปอนด์ และคาดว่ากองหน้าวัย 23 ปีจะเข้ารับการตรวจร่างกายวันนี้ (23/12/12) ทั้งนี้ เชลซี จะใช้เงินที่ได้จากการขาย สเตอร์ริดจ์ ไปสมทบทุนทุ่มซื้อแข้งหน้าใหม่เข้ามาเสริมทีมอย่างน้อย 3 คนในช่วงเปิดตลาด อย่างไรก็ตาม"สิงห์บูลส์"จะยังไม่ปล่อย สเตอร์ริดจ์ ออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์จนกว่าพวกเขาจะหานักเตะใหม่เข้ามาทดแทนได้
 
ดาวิด บีญ่า หอกหัวอีกรายที่มีข่าวกับ ลิเวอร์พูล หนาหูเหลือเกิน
 
          ส่วนศูนย์หน้าอีกคนที่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวเชื่อมโยงกับ " เครื่องจักรสีแดง " แห่งเมอร์ซี่ไซด์ ก็คือ ดาบิด บีญ่า กองหน้าทีมชาติสเปนและสโมสร บาร์เซโลน่า ยักใหญ่ในศึก ลา ลีก้า สเปน หลังจากอนาคตของ บีญ่า กับ " เจ้าบุญทุ่ม " ไม่มีความแน่นอน ซึ่งแม้จะกลับมาฟิตเต็มถังแล้ว แต่ก็ยังได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียงแค่นัดเดียว ภายใต้การทำทีมของโค้ช ติโต้ บีญาโนว่า ในซีซั่นนี้ บีญ่า สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกัสเปน แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับ บีญาโนว่า ได้เท่าที่ควร
 
 
The end
 
ดูบอลออนไลน์, ดูบอลสด พื้นที่โฆษณา

สมาชิกโปรดล็อกอินก่อนร่วมแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรกสิคะ