โรแบร์โต้ มันชินี่จำเป็นต้องชนะสถานเดียวในคืนนี้เพื่อต่อลมหายใจของ "เรือใบ" ในเส้นทางชปล.
แมนฯ ซิตี้ ตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา โดยขณะนี้พวกเขาเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ดี หลังจาก เก็บไปเพียง 2 คะแนนจาก 4 นัด เกมนี้จำเป็นต้องชนะ เรอัล มาดริด ให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อลดช่องว่างของทีมจากสเปนให้เหลือ 2 แต้ม ก่อนที่จะไปลุ้นอีกเฮือกในนัดสุดท้าย จากนั้นไปลุ้นผลการแข่งขันของอีกคู่ในกลุ่ม ซึ่งถ้าหากผลออกมาเป็นใจก็จะทำให้โอกาสในการเข้ารอบของ "เรือใบ" เปิดกว้างขึ้น ส่วน " ราชันชุดขาว " ขอแค่เสมอหรือชนะ แทบจะลอยลำผ่านเข้ารอบทันที
• ที่ผ่านมามีเพียง 2 ทีมเท่านั้น ที่สถานการณ์คล้ายกับ แมนฯ ซิตี้ แล้วสามารถโกงความตายผ่านเข้ารอบไปได้ โดย 2 ทีมนั้นคือ โลโคโมทีฟ มอสโก (1 แต้มจาก 4 เกม) ในปี 2002/03 กับ ปอร์โต้ (2 แต้ม) ในปี 2004/05
Match background
• เป็นจำนวน 19 เกมแล้วในฟุตบอลยุโรปที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่เคยเสียท่าให้กับคู่แข่งในบ้านของตัวเอง โดยครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปในปี 2008/09 ของรายการยูฟ่า คัพ ที่แพ้ให้กับมิดทิลลันด์
• " เรือใบสีฟ้า " ยังไม่เคยเสียท่าในถิ่นให้กับคู่แข่งจากสเปนเมื่อ ชนะ 2 เสมอ 1 โดยซีซั่นก่อน พวกเขาก็จัดการปราบ บียาร์เรอัล ไป 2-1 โดยได้ประตูชัยจาก เซร์คิโอ อเกวโร่
• หนสุดท้ายที่ เรอัล มาดริด เตะกับทีมจากอังกฤษ คือแข่งกับ สเปอร์ส ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ของฤดูกาล 2010/2011 โดยเกมที่ไปเยือนลอนดอน " ราชันชุดขาว " ชนะไป 1-0 ส่วนในบ้านชนะไป 4-0
• สถิติการมาเยือนอังกฤษของ เรอัล มาดริด ไม่ถึงกับเลวร้ายสักเท่าไหร่เมื่อ ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 5 จาก 11 และเกมคืนนี้ เป็นครั้งที่ 5 แล้วที่พวกเขายกพลมาที่เมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่ง 4 ครั้งที่ผ่านมาคู่แข่งของพวกเขาคือ แมนฯ ยูไนเต็ด