
ลูชาโน่ สปัลเลตติ นำลูกทีมลงซ้อม ก่อนเกมที่ เซนิตฯ ต้องชนะสถานเดียว
สถิติน่าสนใจ
นี่เป็นการเดิมพันครั้งสำคัญ เมื่อ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ต้องพบกับ ทีมนำของตารางอย่าง มาลาก้า ที่ เปตรอฟสกี้ สตาดิโอน ในเกมที่ห้าของรอบแบ่งกลุ่ม
ด้วยความที่เป็นทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่ม จากการเก็บได้เพียงสามคะแนน ทำให้ เซนิตฯ จำเป็นต้องชนะสถานเดียวในนัดนี้ ทว่าขณะเดียวกัน พวกเขาจะถูกเขี่ยตกรอบทันที ถ้า เอซี มิลาน คว้าชัยเหนือ อันเดอร์เลชท์
ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วสำหรับลูกทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ หลังจากนัดล่าสุด พวกเขาบุกไปเสมอ มิลาน ถึงอิตาลี พร้อมกับตีตั๋วทะยานเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว
ผลชนะ 3-0 ต่อ เซนิตฯ ในเกมแรกที่เจอกันเป็นการเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมหน้าใหม่จากสเปน ซึ่งในเกมนี้พวกเขาต้องการคะแนนในการมาเยือนรัสเซีย เพื่อรักษาสิทธิ์การเป็นจ่าฝูง เหมือนที่ อดีตกุนซือบียาร์เรอัล เคยฝากผลงานไว้ในรอบแบ่งกลุ่มเวทีเดียวกันนี้ เมื่่อฤดูกาล 2005/06
ปูมหลังของเกม
ลูกทีมของ ลูชาโน่ สปัลเลตติ ยังทำผลงานในบ้านได้ในระดับเท่าทุน เพราะถึงจะออกสตาร์ทด้วยความพ่ายแพ้ให้ มิลาน 2-3 แต่คิวเหย้าถัดมาก็สามารถแก้ตัวทันควันด้วยการเอาชนะ อันเดอร์เลชท์ 1-0
เจ้าบุญทุ่มจากรัสเซีย ดูจะมีภาษีที่ดีกว่าในการพบกับ เปรเยกรินี่ ที่ เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก หลังจากเคยเอาชนะ บียาร์เรอัล ที่มีกุนซือชาวชิลีคนนี้คุม 1-0 ในศึก ยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย จากประตูของ พาเวล โปเกร๊บเนี๊ยค และจบนัดที่สองด้วยผลประตูรวม 2-2
ครั้งแรกและหนเดียวที่ เซนิต พลาดท่าแขกรับเชิญจากแดนกระทิงดุในถิ่นตัวเองเกิดขึ้นในฤดูกาล 2008/09 ที่พวกเขาถูก เรอัล มาดริด บุกเผาเครื่อง 2-1 แต่นอกเหนือจากนั้นอีก 5 ครั้ง มาตรฐานการเฝ้ารังของ เซนิต มีผลลัพธ์ที่ ชนะ 2 เสมอ 3
ส่วน มาลาก้า ได้รับความพ่ายแพ้เพียงเกมเดียว จาก 11 เกมที่ต้องเล่นเป็นทีมเยือนบนเวทียุโรป และชนะถึง 5 เสมอ 1 ในเกมระดับทวีปนอกบ้าน รอบ 8 เกมหลัง เช่นเดียวกับซีซั่นนี้ ทีมดังจากสเปน ยังคงแข็งแกร่ง เพราะบุกชนะ อันเดอร์เลชท์ และตามด้วยเสมอ พานานิไนกอสกับ เอซี มิลาน