ตามจริงผมวิเคราะห์เยอะกว่านี้ครับแต่พิมพ์แล้วโพสไม่ติดเลยพิมพ์ใหม่อีกรอบไม่ได้เท่าเดิม
บาเยิร์น มิวนิค* - 0.5/1 เชลซี ผลที่คาด เสมอ 1-1 หรือ ชนะ 2-1
เชลชี 8 นัดหลังสุดของเชลชีในบอลถ้วย ไม่พลาดท่าต่อทีมใดเลย ส่วนบาเยร์น 8 นัดหลังสุดในบอลถ้วยทุกรายการพลาดท่าไป 3 นัดด้วยกัน
เกมนี้สิงห์บลูพร้อมส่งดาวิด หลุยซ์และแกรี่ เคฮิลล์ลงเล่นคู่กันในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง หลังเรียกความฟิตกลับมาได้ทันเวลา จากการถูกอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงเล่นงานไปทั้งคู่ จนต้องพักไปในหลายนัดหลังทั้งคู่เป็นเซ็นเตอร์แบ๊กอาชีพแค่สองคนที่เหลือให้ใช้งานในนัดนี้ เพราะจอห์น เทอร์รี่กับบรานิสลาฟ อิวาโนวิชติดโทษแบนทั้งคู่ หลังรายแรกโดนไล่ออกในรอบตัดเชือกนัดที่สอง ส่วนรายหลังสะสมใบเหลืองครบโควตาในเกมเดียวกัน รวมทั้ง รามิเรสและราอูล เมเรเลส อีกสองกองกลางคนสำคัญ ชวดบู๊ทั้งคู่เพราะโดนกักแข้งเช่นกัน ขณะที่ ตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า จะเป็นของดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงตัวเก๋า ซึ่งมองดูแล้ว น่ากลัวเหมือนกันที่เซนเตอร์วันนี้ของเชลชีเป็นผู้เล่นที่เพิ่งหายเจ็บลงมาเล่นห่างสนามไปหลายนัด อีกทั้งยังไม่ถนัดลูกโด่งเท่าที่ควร ซึ่งถ้าเทียบกับบาเยิร์ที่เล่นลูกโ่ด่งได้ดีอย่างโกเมสโดยมี อาร์เยน ร็อบเบนและ ฟร็องค์ ริเบรี่ ปั้นบอลให้ ก็ถือเป็นงานที่เชลชีต้องรับมือให้ได้
เสือใต้เสียตัวหลักในแนวรับไปถึงสองคนในเกมนี้ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ เซ็นเตอร์แบ๊กทีมชาติเยอรมัน และดาวิด อลาบา แบ๊กซ้ายดาวรุ่ดโทษแบนพร้อมกันหลังสะสมใบเหลืองครบโควตามาจากรอบตัดเชือกนัดที่สอง ในรายของ ดาเนี่ยล ฟาน บุนเต็น เซ็นเตอร์แบ๊กตัวเก๋าอีกคน ก็ยังฟิตไม่พอจะกลับมาลงช่วยทีมในนัดนี้ หลังพักไป 4 เดือนเพราะกระดูกฝ่าเท้าหัก และเพิ่งคัมแบ๊กกลับมาลงเล่นในเกมสำรองไปแค่นัดเดียวก่อนจบฤดูกาลเท่านั้น ส่วน เบรโน่ เซ็นเตอร์แบ๊กดาวรุ่งชาวบราซิล ก็พักยาวมาทั้งฤดูกาลเพราะปัญหาเรื้อรังที่เข่า
วันนี้ดูเกมส์น่ะครับสัก 20 นาทีถ้า โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ สามารถวางแผนเปิดเกมส์รับมือ อาร์เยน ร็อบเบนและ ฟร็องค์ ริเบรี่ ไม่ให้ปั้นบอลให้ โกเมสได้ถนัดแล้ว มีเกมส์สวนกลับได้ตลอดเวลาแล้วถ้าเป็นแบบนี้เชลชีอาจเถียงได้ ความคิดส่วนตัวผมน่ะครับ ผมเชื่อในโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ผู้จัดการทีมเชลซี ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งในระหว่างฤดูกาล ยังไม่แพ้ใครในการนำทีมลงเตะรายการนี้ ด้วยการชนะ 4 และเสมอ 1 ใน 5 นัดที่คุมทีม ซึ่งมองแล้วผู้ชายคนนี้สามารถทำทีมเชลชีได้เกินความคาดหมายของหลายคนจริงๆๆๆๆทีมในยุคของดิมัตเทโอ ปรับจากโบอาส วางไลน์ตั้งรับต่ำ และเน้นไปที่เล่นสวนกลับในหลายๆครั้งและได้ผลทีเดียว นั่นหมายความว่า เกมในแดนกลางจะเป็นส่วนสำคัญในรูปเกม ด้วยการดวลกันระหว่างแผงกองกลางมากประสบการณ์ ขณะที่ในแดนหน้าทั้งสองทีมต่างมีหัวหอกเฉียบคมที่กองหลังไม่อาจประมาทได้ เชื่อว่า โกเมซ และดร็อกบา ใครที่ได้โอกาสและทำได้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้ทีมในเกมสุดบีบหัวใจ ท่ามกลางสภาพกองหลังของทั้งสองทีมที่ไม่ได้เป็นชุดฟุลทีมตามสถานการณ์ปกติ ถ้าให้ผมฟันธงนัดนี้ผมมองเชลชีไม่แพ้ใน 90 นาทีครับ โดยเฉพาะถ้าบาเยิร์นไม่สามารถเล่นลูกโด่งได้ถนัดงานนี้เชลชีมีโอกาสเลยล่ะ ยังงัยไปลุ้นกันคืนนี้
เพิ่มเติม
หลังจากที่พ่อหมอหมึกยักษ์จอมทำนายลาโลกก็ยังไม่มีสัตว์ชนิดใดที่จะขึ้นมา เทียบชั้นได้ล่าสุด!เจอแล้วนั่นก็คือเจ้าลามะแสนรู้ ซึ่งอยู่ที่สวนสัตว์ในอังกฤษ ออกมาทำนายว่า เชลซี จะคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก หลังเคยทายนัดชิงเอฟเอ คัพ ถูกมาแล้ว
หลังจากที่ พอล พ่อหมอหมึกยักษ์จอมทำนายลาโลก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถมีสัตว์ชนิดใดที่จะขึ้นมาเทียบชั้นในการพยากรณ์ ได้แม่นยำอีกเลย แต่ล่าสุด!ก็เจอแล้วและน่าพอจะไว้เนื้อเชื่อใจได้บ้างต้องดูผลงานต่อไป สำหรับเจ้าลามะแสนรู้ตัวนี้ซึ่งอยู่ที่สวนสัตว์ในอังกฤษ และได้ทำนายทายทักเกมลูกหนังยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2011/2012 รอบชิงชนะเลิศ ที่ประเทศเยอรมัน ระหว่าง!"เสือใต้"บาเยิร์น มิวนิค กับ"สิงห์บลูส์"เชลซี และเจ้าลามะก็เลือก เชลซี จะเป็นฝ่ายเอาชนะ"เสือใต้"รอบชิงชนะเลิศ วันเสาร์ที่ 19 พ.ค.นี้
ซึ่งเจ้าลามะจากทวีปอเมริกาใต้ ที่ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่ที่แอชดาวน์ ลามะ ปาร์ค สวนสัตว์ที่อีสต์ซูส เซ็กซ์ มีความสามารถนอกเหนือสัตว์ร่วมสปีซี่ส์เดียวกัน โดยเฉพาะเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลซึ่งดูจะชื่นชอบทีเดียวสำหรับเจ้าลามะตัวนี้ ซึ่งการเสี่ยงทายนั้นเจ้าลามะ ได้เอาจมูกจิ้มเข้าไปที่ลูกบอลสีน้ำเงินก็คือสัญลักษณ์ของทีมเชลซี อย่างไรก็ตามเจ้าลามะยังแอบเล่นทำเสียวเมื่อได้เดินไปเฉี่ยวของฝั่งลูกบอลสี แดงที่ใช้แทนทีมบาเยิร์น มิวนิค
ส่วนผลงานครั้งก่อนนั้นก็ได้ทายทักว่า เชลซี จะเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ ส่วนงานต่อไปเตรียมที่จะทำนายผลการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มของทัพ"สิงโต คำราม"อังกฤษ ในศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2012 ที่ประเทศโปแลนด์กับยูเครน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ และจะเปิดฉากขึ้นกลางเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
*ทีมจากเยอรมันและอังกฤษจะพบกันในนัดชิงฟุตบอลถ้วยใบใหญ่ของยุโรปเป็นครั้งที่ 6 โดยใน 5 ครั้งก่อนหน้านี้ ทีมจากเมืองเบียร์เป็นฝ่ายเอาชนะได้ในครั้งแรก (บาเยิร์นชนะลีดส์ 2-0 ปี 1975) แต่หลังจากนั้นทีมจากเมืองผู้ดีก็คว้าชัยได้ใน 4 ครั้งต่อมา โดย 2 ครั้งในนั้นเป็นชัยชนะที่มีเหนือทีมเสือใต้ด้วย (ลิเวอร์พูลชนะกลัดบัค 3-1 ปี 1977, น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ชนะฮัมบวร์ก 1-0 ปี 1980, แอสตัน วิลล่าชนะบาเยิร์น 1-0 ปี 1982, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชนะบาเยิร์น 2-1 ปี 1999)
*การพบกันเพียงครั้งเดียวของทั้งสองทีมคือในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของรายการนี้เมื่อ 7 ปีก่อน โดยเชลซีชนะไปด้วยประตูรวม 2 นัด 6-5 และเกินครึ่งของประตูที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น (6 จาก 11) เป็นผลงานของนักเตะที่น่าจะได้ลงดวลแข้งกันอีกครั้งในรอบชิงครั้งนี้ โดยเชลซีได้ประตูจากแฟรงค์ แลมพาร์ด (3) และดิดิเยร์ ดร็อกบา (2) ส่วนบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ก็ทำหนึ่งประตูให้บาเยิร์น
*ถ้าเชลซีเอาชนะได้ก็จะกลายเป็นทีมที่ 5 ของอังกฤษที่ได้เป็นแชมป์ยุโรป ต่อจากแมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, ฟอเรสต์ และวิลล่า และจะทำให้ทีมจากอังกฤษได้ครองแชมป์ทั้งสิ้น 12 ครั้ง เป็นรองเพียงสถิติของทีมจากสเปนที่ได้แชมป์ทั้งสิ้น 13 ครั้ง แต่ถ้าบาเยิร์นได้แชมป์ก็จะเป็นแชมป์ครั้งที่ 7 ของทีมจากเยอรมัน
*นักเตะเชลซีถึง 8 คนจากนัดชิงชนะเลิศกับแมนฯ ยูไนเต็ดเมื่อปี 2008 ยังหลงเหลืออยู่ในทีมสิงห์บลูชุดปัจจุบัน ได้แก่ ปีเตอร์ เช็ก, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น เทอร์รี่, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิกาเอล เอสเซียง, โฟลร็องต์ มาลูด้า, ดิดิเยร์ ดร็อกบา และซาโลมอง กาลู
*บาเยิร์นชนะรวดทั้ง 7 นัดที่ลงเตะแชมเปี้ยนส์ลีกในบ้านตัวเองฤดูกาลนี้ ซึ่งรวมถึงเกมในรอบเพลย์ออฟด้วย โดยเสือใต้ทำไป 21 ประตูในเกมเหล่านี้และเสียไปแค่ 4 ลูกเท่านั้น เกมสุดท้ายที่บาเยิร์นแพ้คาอัลลิอันซ์ อารีน่าในรายการนี้คือนัดที่ปราชัยอินเตอร์ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฤดูกาลก่อน ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ครั้งเดียวใน 14 เกมหลังสุดที่ลงเตะในบ้านในรายการนี้
*บาเยิร์นมีสถิติที่ดีในการพบกับทีมจากอังกฤษในบ้านตัวเอง โดยแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 18 นัดและชนะได้ถึง 11 ความพ่ายแพ้ครั้งเดียวของเสือใต้เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของนอริช ซึ่งบุกมาคว้าชัย 2-1 ได้ที่มิวนิคในเกมยูฟ่าคัพฤดูกาล 1993-94
ก่อนที่คู่ชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2011/2012 ระหว่าง!"เสือใต้"บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวทีบุนเดสลีก้า เยอรมัน กับ"สิงห์บลูส์"เชลซี ทีมมหาเศรษฐีแห่งศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะลงสนามฟาดแข้งกันวันเสาร์ที่ 19 พ.คฒนี้ เวลา 01.45 น. (ตามเวลาบ้านเรา) ขอนำแฟนบอลมาสัมผัสบรรยากาศภายในสนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ซึ่งใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้งตัดสินแชมป์ พร้อมกันนี้จะได้ฟังนานาทรรศนะจากเหล่านักเตะรวมถึงเส้นทางที่ผ่านมาของทั้ง สองทีม
มาเริ่มกันที่เส้นทางของ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนที่จะมาถึงรอบชิงชนะเลิศกันก่อน ในรอบเพลย์ออฟ เอาชนะ ซูริค เหย้า 2-0 และนัดเยือน 1-0 และรอบแบ่งกลุ่มชนะ บียาร์รีล เยือน 2-0 เหย้า 3-1 ชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหย้า 2-0 แพ้เกมเยือน 0-2 เสมอกับ นาโปลี 1-1 (เยือน) ชนะเกมเหย้า 3-2 มาต่อที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย"เสือใต้"เกมเยือนออกไปแพ้ บาเซิ่ล 0-1 ชนะเกมเหย้า 7-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอาชนะ มาร์กเซย ได้ทั้งไปและกลับ 2-0 ในสกอร์เดียวกัน ปิดท้ายที่รอบรองชนะเลิศชนะ รีล มาดริด ในเกมเหย้า 2-1 แพ้เกมเยือน 1-2 ต้องตัดสินดวลจุดโทษและชนะไป 3-1 หลัง 120 นาทีเสมอกัน 3-3
ด้าน เชลซี รอบแบ่งกลุ่มเอาชนะ เลเวอร์คูเซ่น 2-0 เหย้า เยือนพ่าย 1-2 เสมอบาเลนเซีย เยือน 1-1 ชนะเกมเหย้า 3-0 ชนะเกงค์ 5-0 เหย้า เกมเยือนเสมอ 1-1 และรอบ 16 ทีมสุดท้าย เกมเยือนแพ้ นาโปลี 1-3 ชนะเกมเหย้า 4-1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอาชนะ เบนฟิก้า 1-0 เยือน เกมเหย้าชนะ 2-1 ปิดท้ายที่รอบรองชนะเลิศด้วยการคว่ำ บาร์เซโลน่า ชนะเกมเหย้า 1-0 และเกมเยือนเสมอ 2-2 มาดูทรรศนะกันบ้างเริ่มที่ โจวาเน่ เอลแบร์ อดีตนักเตะบาเยิร์น มองว่าเกมน่ายืดเยื้อถึงดวลจุดโทษหาผู้ชนะ และ"เสือใต้"เป็นฝ่ายคว้าแชมป์, มิชาเอล บัลลัค อดีตแข้งบาเยิร์นและเชลซี ให้"เสือใต้"ชนะเนื่องจากได้เล่นในสนามตัวเอง
โรเบิร์ต ฮูธ อดีตแข้งเชลซี ให้ บาเยิร์น ชนะ เชลซี 3-1, อิเคร์ กาซิยาส นักเตะรีล มาดริด ให้ บาเยิร์น ชนะ, โอลิเวอร์ คาห์น อดีตแข้ง"เสือใต้"และอาร์เซน่อล ไม่ฟันธงบอกว่าถ้า บาเยิร์น ประมาทเสร็จ เชลซี แน่, วิลลี่ ซาโญล อดีตนักเตะบาเยิร์น ให้เจ้าถิ่นคว้าแชมป์ในรังของตัวเอง, โยอัคคิม เลิฟ นายใหญ่ทีมชาติเยอรมัน บอก บาเยิร์น จะชนะ เชลซี ได้หากนำประสบการณ์จากเกมที่แพ้ ดอร์ทมุนด์ 2-5 เกมนัดชิงเดเอฟเบ โพคาล มาปรับใช้ในเกมนี้ รอย มาคาย อดีตแข้งบาเยิร์น ฟันธง บาเยิร์น ชนะ ส่วน มาร์โก้ มาริน นักเตะหน้าใหม่ของเชลซี ยกให้ต้นสังกัดจะบุกไปเอาชนะ"เสือใต้"
ด้าน ดีทมาร์ ฮามันน์ อดีตแข้งบาเยิร์น มิวนิค ให้ เชลซี ชนะเพราะมองว่ามีขุมกำลังที่เหนือกว่าเจ้าถิ่น แถมที่หาก บาเยิร์น คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก วันนี้ได้ ก็จะเป็นสมัยที่ 5 เทียบเท่า ลิเวอร์พูล และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1984 ที่ทีมได้เข้าชิงดำได้เล่นในรังของตัวเอง รวมไปถึงถ้า ไฮน์เกส นำ"เสือใต้"คว้าแชมป์ ก็จะเป็นโค้ชคนที่ 4 ที่นำ 2 ทีมได้แชมป์รายการนี้ และหากว่า เชลซี คว้าแชมป์ ก็จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้วของฟุตบอลถ้วยนี้ในฤดูกาล 2004-05 ซึ่ง บาเยิร์น ชนะ 3-2 และ เชลซี ชนะ 4-2