มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง พรีเมียร์ ลีก (เสาร์)

มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง พรีเมียร์ ลีก (เสาร์)

อาร์เซน่อล -vs- แบล็คเบิร์น
  
    ทีมของ อาร์เซน เวนเกอร์ เพิ่งจะพลาดเก็บสามคะแนนจากเกมเสมอกับโบลตันเมื่อวันพุทธที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาใช้โอกาสเปลืองจนเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ซึ่งจะไปโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวของพวกเขาเอง อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมองว่า อาร์เซน่อล เป็นต่อ แบล็คเบิร์น อยู่พอสมควร

     ในค่ำคืนเดียวกัน แบล็คเบิร์น ก็เพิ่งจะพ่ายคาบ้านให้กับ นิวคาสเซิ่ล 0-2 ซึ่งเกมดังกล่าวพวกเขาก็แทบจะไม่ค่อยได้มีโอกาสป้วนเปี้ยนหน้าปากประตูของทีมเยือนสักเท่าไหร่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้แนวรุกของทีมด้อยประสิทธิภาพลงไปเป็นเพราะการขาดหายไปของ ยูคูบู้ นอกจากนั้น คริส แซมบ้า ปราการหลังเจ้าปัญหาก็ยังเคลียร์กับ สตีฟ คีน ไม่ลงตัว แต่ด้วยสถานการณ์ที่ดูไม่สู้ดี ผมคิดว่าคงจะดีกว่าหากมี แซมบ้า ประจำการในแนวรับตามเดิม

อาร์เซน่อล ชนะ 2-0 

นอริช ซิตี้ -vs- โบลตัน

     นอริช มักจะหาทางกลับมาจากความพ่ายแพ้ได้อย่างรวดเร็วเสมอ และก็น่าสนใจเหมือนกันว่าในวันนี้พวกเขาจะทำได้อีกครั้งหรือไม่จากที่เพิ่งแพ้ ซันเดอร์แลนด์ ในค่ำคืนวันพุทธมาหมาดๆ ผมเชื่อว่าเกมนี้ พอล แลมเบิร์ต กุนซือของทีมอาจพิจราณารายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงใหม่อีกครั้ง ในขณะที่ โบลตัน กำลังอยู่ในช่วงที่เล่นกันได้อย่างมั่นใจในระบบ 4-5-1 โดยมี ดาวิด เอ็นก๊อก ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

     ผมยอมรับว่าไม่ใช่แฟนตัวยงของ เอ็นก๊อก แต่ต้องยอมรับว่าศูนย์หน้าเลือดน้ำหอมรายนี้เล่นได้เข้ากับระบบดังกล่าวได้ดีทีเดียว นอกจากนั้น การมี มาร์ค เดวี่ส์ ผนึกกำลังร่วมกับ ไนเจล ริโอ-โคเกอร์ ตรงกลางสนามนั้นสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน ส่วนทางด้าน คริส อีเกิ้ลส์ และ มาร์ติน เปตรอฟ ก็ทำหน้าที่ตรงริมเส้นได้ดี ส่งผลให้ทีมชุดนี้ค่อนข้างเล่นกันได้อย่างลงตัว

เสมอ 1-1

ควีนส์ปาร์ค -vs- วูล์ฟแฮมป์ตัน

     ควีนส์ปาร์ค ต้องสาละวนหัวหมุนในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ตลาดนักเตะเปิด แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะทำให้พวกเขาได้นักเตะระดับคุณภาพเข้ามาประดับทีม และถ้าหากในวันนี้ มาร์ค ฮิวจ์ ตัดสินใจส่ง ฌิบริล ซิสเซ่ กับ บ๊อบบี้ ซาโมร่า ลงไปยืนจับคู่กันในแดนหน้า นั่นก็หมายความว่า ไฮย์ดาร์ เฮลกูสัน, เจย์ โบธรอยด์, ดีเจ แคมป์เบลล์ และ เฟเดริโก้ มาเคด้า จะได้เพียงแค่รอคอยโอกาสอยู่ที่ข้างสนาม เรียกได้ว่าขุมกำลังในตอนนี้ดูดีจริงๆ

     ผมคิดว่าเป็นโอกาสดีของ ควีนปาร์ค ที่จะเคลมสามคะแนนเต็มจากเกมนี้ เพราะนอกจากจะมีนักเตะให้เลือกใช้งานเป็นจำนวนมากแล้ว คู่ต่อสู้อย่าง วูล์ฟ ก็กำลังอยู่ในช่วงที่โชว์ฟอร์มได้ไม่แจ่มเท่าไหร่ แต่ในขณะเดียวกัน มิค แม็คคาร์ธี่ นายใหญ่ของทีมก็กำลังพยายามเจรจายืมตัว เซบาสเตียน บาสซง จาก สเปอร์สเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาในเกมรับ ซึ่งก็ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดทีเดียว

ควีนส์ปาร์ค ชนะ 2-0

สโต๊ค ซิตี้ -vs- ซันเดอร์แลนด์

     ซันเดอร์แลนด์ กำลังอยู่ในช่วงเอ็นจอยกับผลงานของตัวเอง และเมื่อวันพุทธที่ผ่านมา พวกเขาก็เพิ่งเปิดบ้านเอาชนะ นอริช ซิตี้ มาแบบสบายๆ 3-0 ส่งผลให้อันดับขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8 ของตาราง ทว่า มาร์ติน โอนีล กุนซือของทีมก็มีเรื่องต้องปวดหัวไม่น้อยเหมือนกัน เวส บราวน์ เพิ่งได้รับบาดเจ็บและต้องพักยาวต่อไปอีกประมาณ 2-3 เดือน ส่วนทางด้าน เดวิด วอห์น ก็เป็นอีกรายที่ยังไม่ฟื้นจากโรคเดี้ยง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสโมสรถึงตัดสินใจคว้าตัว โซติริออส คีเกียกอส และ เวย์น บริดจ์ ในวันสุดท้ายก่อนที่ตลาดนักเตะจะปิดลง และแม้ว่า "แมวดำ" กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี แต่อย่าลืมว่า สโต๊ค เป็นทีมที่ยอดเยี่ยมในยามที่ได้ปักหลักลงเล่นในถิ่นของตัวเอง

สโต๊ค ชนะ 2-1

เวสต์บรอมฯ -vs- สวอนซี

     เวสต์บรอม ต้องปรับทัศนคติในการเล่นของตัวเองอีกสักนิด เนื่องจากพวกเขาเล่นกันเหมือนกับคนที่คิดว่าตัวเองจะแพ้ในท้ายที่สุด ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของ รอย ฮัดจ์สัน ที่ต้องใช้จิตวิทยากระตุ้นให้ลูกทีมมีความฮึกเหิมกันมากกว่านี้ ยังดีที่เสาร์นี้ โซเม็น ทีโชยี่ มิดฟิลด์เลือดเซเนกัลจะกลับมาลงประจำการในแผงมิดฟิลด์ได้อีกครั้ง และผมคิดว่าฟอร์มเกมเหย้าที่ย่ำแย่จะสิ้นสุดลงในวันนี้เช่นเดียวกัน

     สถานการณ์โดยรวมของทั้งสองทีมยังคงเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ และถ้าหากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมาก็มีสิทธิ์ที่อันดับจะหล่นลงไปอยู่ในพื้นที่อันตรายได้เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องพึงระวังให้มาก และในขณะเดียวกัน การเก็บสามคะแนนเต็มได้สักสองสามแมทช์น่าจะทำให้หายใจหายคอได้โล่งขึ้น

เวสต์บรอมฯ ชนะ 2-1

วีแกน -vs- เอฟเวอร์ตัน

     ปัจจุบัน วีแกน จมเป็นทีมสุดท้ายของตารางโดยคว้ามาได้เพียง 15 คะแนนจากทั้งหมด 23 นัดที่ลงเล่น และด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาก็จำเป็นต้องการเพิ่มอีกประมาณ 40 คะแนนเพื่อความอยู่รอด ซึ่งก็หมายความว่าต้องเก็บชัยชนะให้ได้มากกว่าครึ่งของจำนวนเกมที่เหลืออยู่ ปัญหาใหญ่ของ วีแกน ในขณะนี้คือเมื่อไหร่ก็ตามที่โดนยิง พวกเขาก็มักจะโดนยิงเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนั้นยังมีค่าเฉลี่ยการยิงประตูที่น้อยกว่าหนึ่งลูกต่อหนึ่งนัด เรียกได้ว่าครอบครององค์ประกอบต่อการตกชั้นเอาไว้อย่างครบถ้วน

     ทั้งๆที่ วีแกน มีผู้เล่นคุณภาพอยู่หลายต่อหลายคน แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเล่นเข้ากันไม่ค่อยได้ ในขณะที่ เอฟเวอร์ตัน กำลังอยู่ในช่วงคึกคักกันสุดขีดหลังจากที่เพิ่งปราบจ่าฝูง แมนฯซิตี้ มาสดๆร้อนๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเซ็นสัญญาอันชาญฉลาดของ เดวิด มอยส์ ที่ดึงตัวนักเตะระดับคุณภาพแต่ราคาย่อมเยาเข้ามาเสริมทัพหลายต่อหลายราย ไม่ว่าจะเป็น แลนดอน โดโนแวน, ดาร์รอน กิ๊บสัน, สตีเว่น พีนาร์ และ นิกิก้า เยลาวิช อย่างไรก็ตาม การที่ถูกคาดหวังว่าต้องชนะในเกมนี้ น่าจะทำให้พวกเขาเกิดอาการเกร็งจนทำให้ไม่อาจเค้นฟอร์มเทพเหมือนกับที่เล่นกับทาง ซิตี้ ออกมาได้

เสมอ 1-1

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ -vs- ฟูแล่ม

     แมนฯซิตี้ เพิ่งจะผิดหวังกับผลการแข่งขันจากเมื่อกลางสัปดาห์ แต่ผมคิดว่าพวกเขาจะกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง อย่างไรก็ตามในยามที่ทีมต้องตกอยู่ในสถานการณ์อึดอัดอย่างในเกมที่ผ่านมา ผมเชื่อว่า โรแบร์โต้ มันชินี่ คงคิดถึง คาลอส เตเวซ อยู่เหมือนกัน และแม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ แต่ผมก็คิดว่าหากได้ เตเวซ กลับมาลงสนามอีกครั้ง มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย

     ในขณะเดียวกัน ฟูแล่ม จะไร้เงาของ บ๊อบบี้ ซาโมร่า ที่ตกเป็นข่าวว่ากำลังย้ายไปอยู่กับสโมสรใหม่ ส่งผลให้ มาร์ติน โยล มีตัวเลือกในแดนหน้าไม่มากนัก ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะผมคิดว่าการมี ซาโมร่า ยืนค้ำในแดนหน้านั้นทำให้ มัวส์ซ่า เด็มบาเล่ เล่นง่ายขึ้น และยังทำให้ คลิ๊นซ์ เด็มป์ซี่ย์ ได้สอดขึ้นมาทำประตูได้บ่อยครั้ง

ซิตี้ ชนะ 3-0