พรีวิว พรีเมียร์ลีก นัดที่ 13
สองทีมหัวตารางแห่งเมืองแมนเชสเตอร์เพิ่งจะผิดหวังมาจากศึกแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยกันทั้งคู่ แต่หากคิดจะกลับมาเรียกความมั่นใจในเกมลีกสุดสัปดาห์นี้ ก็ต้องขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน เพราะล้วนแต่ต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่อาจทำให้น้ำตาตกได้เช่นกัน
เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงของตารางเพิ่งจะบุกไปพ่าย นาโปลี มาในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งทำให้ต้องไปลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้าย และในวันนี้ พวกเขาจะต้องยกพลบุกไปเยือนรัง "แอนฟิลด์" ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งดูจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนัก เนื่องจากหงส์แดงเริ่มจะกลับมาทำผลงานได้เข้าตาอีกครั้ง หลังจากบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับ เชลซี ได้ถึง "สแตมฟอร์ดบริดจ์"
ส่วนทางด้าน "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีโปรแกรมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมที่จะเพิ่งจะแพ้เป็นครั้งแรกของฤดูกาลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด นอกจากนั้น ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดล่าสุด พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่เจ๊ากับ เบนฟิก้า ในบ้านของตัวเอง 2-2 ซึ่งก็หมายความว่าลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งแต้มในแมทช์สุดท้ายที่จะออกไปเยือน บาเซิ่ล มิเช่นนั้นแล้วคงต้องตกรอบไปแบบที่โทษใครไม่ได้จริงๆ
เวย์น รูนี่ย์ บาดเจ็บสะโพกจนต้องถอนตัวออกจากเกมกับ เบนฟิก้า ส่งผลให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หัวหอกจอมอาร์ทได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทนที่ และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวังเพราะสามารถทำให้ตัวเลขบนสกอร์บอร์ดในเกมดังกล่าวขยับได้ และถ้าหาก เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกร่างตันไม่สามารถสลัดโรคเดี้ยงกลับมาทันลงเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล ก็คาดว่า เฟอร์กี้ น่าจะใส่ชื่อ เบอร์บาตอฟ ลงไปใน 11 ตัวจริงอีกคำรบหนึ่ง
เนมันย่า วิดิช กัปตันเซอร์บิเนเตอร์จะกลับมาประจำการในแนวรับอีกครั้งหลังจากติดโทษแบนจนไม่ได้ลงเล่นในเกมกับ เบนฟิก้า ส่วนทางด้าน ฟิล โจนส์ ที่เพิ่งทำเข้าประตูตัวเองเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาน่าจะถูกโยกไปยืนเป็นแบ็คขวา ในขณะที่ ดาบิด เดเกอา นายประตูชาวสเปนก็ได้ถูก เซอร์ อเล็กซ์ ตำหนิในกรณีที่เคลียร์บอลพลาดจนเป็นเหตุให้ทีมโดน เบนฟิก้า ตามตีเสมอ
แมนฯ ชิตี้ เร่ิมจะเผยจุดอ่อนในแนวรับให้เห็นในเกมที่บุกไปพ่าย นาโปลี แต่คาดว่าเกมกับ ลิเวอร์พูล โรเบอร์โต้ มันชินี่ นายใหญ่เรือใบสีฟ้าน่าจะยังใช้วิธีการหมุนเวียนนักเตะตามเดิม โดยคู่หัวหอกในแดนหน้าจะเลือกใช้ เซอร์จิโอ กุน อเกวโร ยืนคู่กับเจ้าของสโลแกน why alway's me อย่าง มาริโอ บาโลเตลลี
แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะสามารถบุกไปลูบคม เชลซี ได้ถึงกรุงลอนดอนในเกมที่ผ่านมา แต่แทคติกที่ เคนนี่ ดัลกริช เลือกใช้ในแมทช์ดังกล่าวก็คือการเน้นตั้งรับแล้วค่อยรอสวนกลับ ซึ่งคงไม่ใช่แนวทางที่จะนำมาใช้ในยามที่ลงเล่นต่อหน้าเหล่า "เดอะ ค๊อป" เป็นแน่ และในขณะเดียวกัน มนต์ขลังของถิ่น "แอนฟิลด์" และ ความต้องการพิสูจน์ตัวเองว่ามีดีพอที่จะอยู่ในท๊อปโฟร์ อาจจะทำให้ แมนฯ?ซิตี้ ต้องเสียบริสุทธิ์ไร้พ่ายในครานี้ได้เช่นเดียวกัน
เชลซี มีโอกาสดีที่จะหาจุดเปลี่ยนให้กับทีม หลังจากที่แพ้ในเกมลีกมาแล้ว 3 จาก 4 นัดหลังสุด แถมยังจะเพิ่งปราชัยในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จะได้ปักหลักลงเล่นในถิ่นของตัวเองเจอกับ วูล์ฟฯ ในวันเสาร์ ส่วนทางด้าน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทีมอันดับสามของตาราง มีโปรแกรมต้องออกไปเยือน เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน ในวันเดียวกัน
