Match background
* ฆวน การ์ลอส การ์ริโด้ พา บียาร์เรอัล ตีตั๋วเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จจากการพลิกสถานการณ์ในรอบเพลย์อ๊อฟกลับมาแซงชนะ โอเดนเซ่ 3-1 โดยชัยชนะ 3-0 ที่ เอล มาดริกาล ในเลกสองนับเป็นการเก็บชัยบอลยุโรปนัดเหย้าต่อเนื่องเป็นเกมที่ 9 ของพลพรรค "เยลโล่ ซับมารีน" หลังจากฝากสุดยอดผลงานไว้ในศึก ยูโรป้า ลีก เมื่อซีซั่นก่อน
* ส่วน บาเยิร์น ก็ต้องลดตัวลงมาลุ้นในรอบเพลย์อ๊อฟเช่นกัน เพราะในฤดูกาลที่แล้วดันหลุดฟอร์มไปพักใหญ่ก่อนจะมาเร่งเครื่องเข้าป้ายเป็นอันดับ 3 ได้แบบหวุดหวุด โดยทีมของ จุ๊ปป์ เฮย์เกส อาศัยประสบการณ์ที่เหนือกว่าไล่สอนเชิง เอฟซี ซูริค ด้วยประตูรวม 3-0 ซึ่งชัยชนะที่ ซูริค 1-0 นับเป็นการเก็บชัยนอกบ้านครั้งที่ 5 ตลอดทริปเยือนในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 นัดท้าย
* หนล่าสุดที่ บาเยิร์น สามารถสัมผัสชัยชนะบนเมืองคนสู้วัวต้องย้อนไปถึง "10 ปี" โดยครั้งนั้นพลพรรค "เสือใต้" บุกเผาเครื่อง เรอัล มาดริด 1-0 ในฤดูกาล 2000/01 แต่อีก 6 นัดถัดมา บาเยิร์น แพ้ไปถึง 5 และยื้อผลเสมอได้หนเดียว ซึ่งสถิติรวมของโคตรบอลเมืองเบียร์ในทริปเยือน สเปน สุทธิที่ ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 9
* บียาร์เรอัล ยังไม่เคยแพ้ทีมจากเยอรมันในถิ่นตัวเอง (ชนะ 2 เสมอ 1) แถมยังเคยหักเหลี่ยม เฮย์เกส เมื่อครั้งคุมทีม เลเวอร์คูเซ่น เมื่อปีกลายด้วยการเปิด เอล มาดริกาล ปราบพยศ "ห้างขายยา" 2-1 ก่อนตีตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปดวยสกอร์รวมขาดลอย 5-3 ขณะเดียวกัน 2 คนที่หลงเหลือมาจากทีมชุดเข้ารอบรองฯ ปี 2005/06 คือ กอนซาโล่และ มาร์กอส เซนนา
