พรีวิว คัด "ยูโร 2012" กลุ่ม E : ฮอลแลนด์ (1) -vs- ซาน มารีโน่ (6)
ผลงานที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่ม
ฮอลแลนด์ ชนะ 6 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 21 เสีย 5 มี 18 แต้ม
ซาน มารีโน่ ชนะ 0 เสมอ 0 แพ้ 7 ได้ 0 เสีย 33 มี 0 แต้ม
ฮอลแลนด์
30/03/11 ชนะ ฮังการี 5-3 (เหย้า)
26/03/11 ชนะ ฮังการี 4-0 (เยือน)
13/10/10 ชนะ สวีเดน 4-1 (เหย้า)
09/10/10 ชนะ มอลโดวา 1-0 (เยือน)
08/09/10 ชนะ ฟินแลนด์ 2-1 (เหย้า)
04/09/10 ชนะ ซาน มารีโน่ 5-0 (เยือน)
ซาน มารีโน่
11/08/11 แพ้ โรมาเนีย 0-1 (เหย้า)
08/06/11 แพ้ ฮังการี 0-3 (เหย้า)
04/06/11 แพ้ ฟินแลนด์ 0-1 (เหย้า)
09/02/11 แพ้ ลิกเตนสไตน์ 0-1 (เหย้า)
17/11/10 แพ้ ฟินแลนด์ 0-8 (เยือน)
13/10/10 แพ้ มอลโดว่า 0-2 (เหย้า)
09/10/10 แพ้ ฮังการี 0-8 (เยือน)
"กังหันสีส้ม"ที่ตั้งเป้าเก็บชัยชนะ 7 เกมรวดจะไม่มี อาร์เยน ร็อบเบน และ อิบราฮิม อเฟลลาย ในเกมที่พบกับ ซาน มารีโน่เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แม้ทั้งคู่น่าหายจะกลับมาทันเกมที่พบกับ ฟินแลนด์ ในวันที่ 6 กันยายน แต่ทีมก็ได้เรียกตัวสองดาวเตะ พีเอสวี คือ เยเรเมน เลนส์ และ จิออจิโน่ ไวจ์นดัม มาแทนที่แล้ว โดย เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ให้สัมภาษณ์ว่า "เรายินดีมากกับสถานการณ์ของทีมในขณะนี้ และทีมของเรามีพร้อมทั้งความเร็วและจินตนาการ ส่วนสำหรับนักเตะใหม่สองรายจาก พีเอสวี อาจได้ลงสนามในเกมที่พบกับ ฟินแลนด์"
ผู้เล่น 23 นักเตะที่เรียกเข้ามา
ฮอลแลนด์
ผู้รักษาประตู : ทิม ครูล (นิวคาสเซิ่ล/อังกฤษ), มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก (โรม่า/อิตาลี), ไมเคิ่ล วอร์ม (สวอนซี/อังกฤษ)
กองหลัง : คาลิด บูลาห์รูซ (สตุ๊ตการ์ท/เยอรมัน), เอ็ดสัน บราฟไฮด์ (ฮอฟเฟ่นไฮม์/เยอรมัน), เจฟฟรี่ บรูม่า (ฮัมบูร์ก/เยอรมัน), ยอห์น ไฮติงก้า (เอฟเวอร์ตัน/อังกฤษ), ยอริส มาไทจ์เซ่น (มาลาก้า/สเปน), เอริค ปีเตอร์ส (พีเอสวี), เกรกอรี่ ฟาน เดอ วิล (อาแจ็กซ์)
กองกลาง : มาร์ก ฟาน บอมเมล (มิลาน/อิตาลี),ไนเจล เดอ ยอง (แมนฯซิตี้/อังกฤษ), เฮ็ดวิกส์ มาดูโร่ (บาเลนเซีย/สเปน), เวสลี่ย์ สไนเดอร์ (อินเตอร์/อิตาลี) ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ต (สเปอร์ส/อังกฤษ), จิออจิโน่ ไวจ์นดัม (พีเอสวี)
กองหน้า : เอลเยโล่ เอเลีย (ฮัมบูร์ก/เยอรมัน), คลาส-แยน ฮุนเตลล่าร์ (ชาลเก้/เยอรมัน) ลุค เดอ ยอง (ทเวนเต้), เดิร์ก เค้าท์ (ลิเวอร์พูล/อังกฤษ), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (อาร์เซน่อล/อังกฤษ), เยเรเมน เลนส์ (พีเอสวี)
ซาน มารีโน่
- ยังไม่มีการประกาศรายชื่อ
Match Background
* ฮอลแลนด์ ต้องการชัยชนะอีกแค่ 1 นัดก็จะการันตีการเข้ารอบสุดท้ายยูโร 2012 อย่างแน่นอนหลังจากที่ผ่านมาชนะรวด 6 นัด มี 18 แต้มเต็ม
* ซาน มารีโน่ เป็น 1 ใน 4 ทีมของยูโร 2012 รอบคัดเลือกที่ยังเก็บแต้มไม่ได้เลย ร่วมกับ อันดอร์ร่า, มอลต้า และเวลส์
* ฮอลแลนด์ ออกสตาร์ตรอบคัดเลือกกลุ่ม E ด้วยชัยชนะสบายๆเหนือ ซาน มารีโน่ 5-0 โดย คลาส-แยน ฮุนเตลล่าร์ กดแฮตทริก และ เดิร์ก เค้าท์ กับ รุด ฟาน นิสเตลรอย ซัดเพิ่มอีกคนละเม็ด
* ฮอลแลนด์ ชนะ ซาน มารีโน่ รวดใน 5 นัดหลังสุดที่เจอกัน และยังไม่เคยเสียประตูให้ทีมเยือน โดยยิงถล่มไป 28 ประตูจาก 5 นัด โดยชนะมากสุดถึง 7-0 เมื่อปี 1993 ยอห์น บอสแมน กดแฮตทริกในนัดนั้น
* มีนักเตะ ฮอลแลนด์ ที่ทำแฮตทริกใส่ ซาน มารีโน่ ได้ถึง 3 คน คือ ยอห์น บอสแมน, แฟรงค์ เดอ บัวร์ และ คลาส-แยน ฮุนเตล่าร์
* ซาน มารีโน่ ยังต้องควานหาประตูแรกของทีมต่อไปหลังจากยิงใครไม่ได้เลยในรอบคัดเลือก
พรีวิว คัด "ยูโร 2012" กลุ่ม E : ฟินแลนด์ (4) -vs- มอลโดว่า (5)
ผลงานที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่ม
ฟินแลนด์ ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 4 ได้ 11 เสีย 11 มี 6 แต้ม
มอลโดว่า ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 4 ได้ 7 เสีย 9 มี 6 แต้ม
ฟินแลนด์
08/06/11 แพ้ สวีเดน 0-5 (เยือน)
04/06/11 ชนะ ซาน มารีโน่ 1-0 (เยือน)
17/11/10 ชนะ ซาน มารีโน่ 8-0 (เหย้า)
12/10/10 แพ้ ฮังการี 1-2 (เหย้า)
08/09/10 แพ้ ฮอลแลนด์ 1-2 (เยือน)
03/09/10 แพ้ มอลโดว่า 0-2 (เยือน)
มอลโดว่า
04/06/11 แพ้ สวีเดน 1-4 (เหย้า)
30/03/11 แพ้ สวีเดน 1-2 (เยือน)
13/10/10 ชนะ ซาน มารีโน่ 2-0 (เยือน)
09/10/10 แพ้ ฮอลแลนด์ 0-1 (เหย้า)
08/09/10 แพ้ ฮังการี 1-2 (เยือน)
03/09/10 ชนะ ฟินแลนด์ 2-0 (เหย้า)
มิกซู พาเตไลเน่น ต้องการให้ลูกทีมทำผลงานดีอย่างต่อเนื่องหลังจากเดือนที่แล้วอุ่นเครื่องเอาชนะ ลัตเวีย มาได้ 2-0 และต้องการล้างตาจากที่เคยบุกไปพ่าย มอลโดว่า มา 0-2 เมื่อเกมแรกที่พบกันอีกด้วย พาเตไลเน่น ยังได้กล่าวถึงสาเหตุที่ไม่เรียกตัว อเล็กซ์ เอเรเมนโก้ จูเนียร์ ดาวยิงที่เพิ่งย้ายไปร่วมทีม คิลมาร์น็อค ในสก็อตแลนด์ เนื่องจากกองหน้ารายนี้มีปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า
ฝั่ง มอลโดว่า ยังคงไม่มี เซเมี่ยน บัลการู กองกลางจาก อลาเนีย สโมสรในรัสเซียหลังจากที่ไม่ติดทีมชาติมา 2 เกมในนัดที่พบกับ ฮังการีและฟินแลนด์ โดย กาวริล บาเลียนท์ กุนซือของทีมยังคงใช้กองกลางชุดเดิมจาก 2 นัดที่แล้ว ซึ่งมี อเล็กซานดรู กัตซาน จากรอสตอฟในลีกรัสเซียมาแทนที่ และยังได้ อเล็กซานดรู เอปูเรียนู กัปตันทีมที่หายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้อีกด้วย รวมไปถึง เซอร์เก อเล็กเชฟ กองหน้าจาก ราค็อกสกี้ ในลีกฮังการีก็มีชื่อหลังจากหายหน้าจากทีมชาติไปกว่า 2 ปี
ผู้เล่น 23 นักเตะที่เรียกเข้ามา
ฟินแลนด์
ผู้รักษาประตู : อ็อตโต้ เฟรดิกสัน (นาลชิค/รัสเซีย), ลูคัส ฮราเด็คกี้ (เอ็ส์บเจิร์ค/เดนมาร์ก)
กองหลัง : นิคลาส มอยซานเดอร์ (อัล์คมาร์/ฮอลแลนด์), เพตทรี้ พาซาเน่น (ซาลซ์บูร์ก/ออสเตรีย), โจนาส ทอยโว (เยอร์การ์เด้น/สวีเดน) ย็อคก้า ไรตาล่า (โอซาซูน่า/สเปน), มาร์คุส ฮัลสตี้ (มัลโม่/เดนมาร์ก), เวลี่ แลมปิ (อาร์เซน่อล เคียฟ/ ยูเครน), คารี่ อาร์คกิโว (ฮัคเค่น/สวีเดน)
กองกลาง : มาร์คุส ไฮกิเน่น (ราปิด เวียนนา/ออสเตรีย), ทิม สปราฟ (โกรนิงเก้น/ฮอลแลนด์), มิก้า วายรีเน่น (ไม่มีสโมสร), แคสเปอร์ ฮามาไลเน่น (เยอร์กาเด้น/สวีเดน), อเล็กซานเดอร์ ริง (เฮลซิงกิ), ดาเนี่ยล โซลลุนด์ (เยอร์กาเด้น/สวีเดน), มิก้า โอจาล่า (อินเตอร์ตูร์คู), โรมัน เอเรเมนโก้ (ดินาโม เคียฟ/ยูเครน), เปอร์ปาริม ฮาเตมาจ (คิเอโว่/อิตาลี)
กองหน้า : ติโม ฟูรูโฮล์ม (อินเตอร์ตูร์คู), มิกาเอล ฟอร์สเซลล์ (ไม่มีสโมสร), มิก้า อาริตาโล่ (ทีพีเอส), ติมู ปุกกี(เฮลซิงกิ), โรนี่ พาโรการ่า (เบียร์ช็อต/เบลเยี่ยม)
มอลโดว่า
ผู้รักษาประตู : สตานิสลาฟ นามาซโก้ (คูแบน/รัสเซีย), อาร์ทเตียม ไกดูเชฟสกี้ (ดาเซีย), นิโคเล่ กาลันเซีย (ซิมบรู)
กองหลัง : อเล็กซานดรู เอปูเรียนู (ดินาโม มอสโก/รัสเซีย), วาดิม บอร์เร่ (บากี้/อาเซอร์ไบจาน), อเล็กซ์ ซาวินอฟ (บากี้/อาเซอร์ไบจาน), เปตรู ราคู (นอร์โคปิง/สวีเดน), วิคเตอร์ โกโลวาเทนโก้ (ซิเบีย/รัสเซีย), ยูเลียน เออร์ฮาน (ซิมบรู), อิกอร์ อามาซ (คูแบน/รัสเซีย), วิตัลเล่ บอร์เดี้ยน (เมทัลลิส/ยูเครน)
กองกลาง : อิกอร์ ทิเกอร์ลาส (โอเดซา/ยูเครน), อเล็กซานดรู โซโวรอฟ (คราโคเวีย/โปแลนด์), ยูเกนนู เซโบตารู (เพียร์ต้า/โรมาเนีย), เดนิส เซมัว (วาสลุย/โปรตุเกส), ยูเกนนู ซิโดเรนโก้ (ซิมบรู), เซิร์คไฮน์ จอร์เกฟ (เชอร์ริฟ/มอลโดว่า), อนาโตลี่ เชฟไทน์ (เชอร์ริฟ/มอลโดว่า)
กองหน้า : อิกอร์ บูเกฟ (แอสตราน่า/คาซัคสถาน), อนาโตลี่ โดรุส (แอสตราน่า/คาซัคสถาน), จอร์จ ออฟเซียนิคอฟ (บัลติ), เซอร์เก อเล็กเชฟ (ราค็อกสกี้/ฮังการี)
Match Background
* มอลโดวา เอาชนะ ฟินแลนด์ ที่เหลือ 10 คนได้ในการพบกันล่าสุดเมื่อ วันที่ 3 กันยายน ปีที่แล้ว โดย ซามี่ ฮูเปีย ปราการหลังตัวเก๋าฟินแลนด์ถูกใบแดงไล่ออกในนาทีที่ 36 และ ซูโวรอฟ กับ โดรอส ช่วยกันซัดคนละเม็ดให้ทีมเจ้าถิ่น
* สถิติการพบกันของทั้งสองทีมในสามนัดล่าสุดสูสีกันมากเมื่อ ชนะ เสมอ และแพ้ไปฝั่งละ 1 ครั้ง โดย มิกซู พาเตไลเน่น โค้ชฟินแลนด์คนปัจจุบันเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ทีมในชัยชนะครั้งหลังสุด
* ทั้งสองทีมเคยอยู่ร่วมกลุ่มกันในรายการยูโร 2000 ซึ่งการพบกันครั้งแรกแข่งที่เฮลซิงกิ บ้านของฟินแลนด์
* ในครั้งนั้น โจนาส ค็อกก้า และ โมลเลอร์-นีลเซ่น ยิงให้ฟินแลนด์นำไปก่อน 2-0 ก่อนจะโดนตีเป็น 2-2 จาก อีกอร์ โอเปรีย และโจนาธาน โยฮันส์สันก่อนที่ พาทตาไลเน่นจะมากดประตูชัยในนาที่ 64
พรีวิว คัด "ยูโร 2012" กลุ่ม E : ฮังการี (3) -vs- สวีเดน (2)
ผลงานที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่ม
ฮังการี ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 3 ได้ 18 เสีย 13 มี 12 แต้ม
สวีเดน ชนะ 5 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 20 เสีย 6 มี 15 แต้ม
ฮังการี
08/06/11 ชนะ ซาน มารีโน่ 3-0 (เยือน)
30/03/11 แพ้ ฮอลแลนด์ 3-5 (เยือน)
26/03/11 แพ้ ฮอลแลนด์ 0-4 (เหย้า)
12/10/10 ชนะ ฟินแลนด์ 2-1 (เยือน)
09/10/10 ชนะ ซาน มารีโน่ 8-0 (เหย้า)
08/09/10 ชนะ มอลโดว่า 2-1 (เหย้า)
04/09/10 แพ้ สวีเดน 0-2 (เยือน)
สวีเดน
08/06/11 ชนะ ฟินแลนด์ 5-0 (เหย้า)
04/06/11 ชนะ มอลโดว่า 4-1 (เยือน)
30/03/11 ชนะ มอลโดว่า 2-1 (เหย้า)
13/10/10 แพ้ ฮอลแลนด์ 1-4 (เยือน)
08/09/10 ชนะ ซาน มารีโน่ 6-0 (เหย้า)
04/09/10 ชนะ ฮังการี 2-0 (เหย้า)
ฮังการี เรียก โซลตาน สตีเบอร์ ปีกซ้ายจาก ไมนซ์ ใน บุนเดสลีก้ามาติดทีมชาติเป็นครั้งแรกหลังจากทำผลงานในลีกได้ดี แทนที่ ซานเดอร์ เอเกอร์วาลี่ ด้านรายชื่อผู้เล่นอื่นๆไม่มีเซอร์ไพร์สแต่อย่างใด วิลมอส วานซัค กองหลังที่ยิงไปแล้ว 4 ลูกในลีกสวิสปีนี้ติดทีมตามคาด รวมไปถึง โรแลนด์ จูฮาซ กัปตันทีมที่พลาดลงสนามเกมพบกับสวีเดนเนื่องจากติดโทษแบนก็กลับมามีชื่อเช่นกัน มีเพียง บาลาซ ดซุดซัค ตัวรุกจากสโมสร อันซี ในรัสเซียที่ไหปลาร้าหักพักยาว 3 เดือนไปก่อนหน้านี้แล้ว
สวีเดน ไม่มี โอลอฟ เมลเบิร์ก กองหลังจาก โอลิมเปียกอส ที่บาดเจ็บเข่าในเกมที่สโมสรอุ่นเครื่องกับ อินเตอร์นาซิอองนาล เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเนื่องจากกองหลังรายนี้มีประสบการณ์สูง และ อีริค แฮมเรน นายใหญ่สวีเดนได้เรียกตัว ราสมุซ เอล์ม กองกลางที่หลุดทีมชาติไปนานกลับมาติดอีกครั้ง ซึ่งเปรยว่าอาจจะส่งลงตัวจริงเลยด้วย
ผู้เล่น 23 นักเตะที่เรียกเข้ามา
ฮังการี
ผู้รักษาประตู : กาบอร์ คิราลี่ (1860 มิวนิค/เยอรมัน), อดัม บ็อกดาน (โบลตัน/อังกฤษ), นอร์เบิร์ท เซินยานสกี้ (ปักซี)
กองหลัง : โจเซฟ วาร์ก้า (เดเบรเซน), โซลตาน เฟเฮอร์ (เกียวริ), โซลตาน ลิปตัค (วีดีโอตอน), อดัม ปินเตอร์ (เรอัล ซาราโกซ่า/สเปน), โซลท์ คอร์กสมาร์ (บราน/นอร์เวย์), โซลท์ ลัค์สโก (ซามพ์โดเรีย/อิตาลี), ปีเตอร์ ฮาลโมซี่ (ฮาลาเดส), วิลมอส วานซัค (ซีออน/สวิส), โรแลนด์ จูฮาซ (อันเดอร์เลชท์/เบลเยี่ยม)
กองกลาง : วลาดิเมียร์ โคแมน (ซามพ์โดเรีย/อิตาลี) โทมัส ฮาจนาล (สตุ๊ตการ์ท/เยอรมัน) อากอส อีเล็ค (วีดีโอตอน), คริสเตียน วาด็อกซ์ (โอซาซูน่า/สเปน), ปีเตอร์ ซิตโควิชส์ (กรอทิจค์), ทามาส โคลไต(เกียวริ)
กองหน้า : แอร์ม ซาบิคส์ (สตวร์ม กราซ/ออสเตรีย), เกอร์เกลี่ย์ รูดอฟ (เจนัว/อิตาลี), ทามาส พริสกิ้น (อิปสวิช/อังกฤษ), โซลตาน สตีเบอร์ (ไมนซ์/เยอรมัน)
สวีเดน
ผู้รักษาประตู : อันเดรียส อิซัคส์สัน (พีเอสวี/ฮอลแลนด์) โยฮัน วิลแลนด์ (โคเปนเฮเก้น/เดนมาร์ก)
กองหลัง : มิเคล แอนตันส์สัน (โคเปนเฮเก้น/เดนมาร์ก) อันเดียส กรองควิสต์ (โกรนิงเก้น/ฮอลแลนด์), มิเคล ลุสติค (โรเซนบอร์ก/นอร์เวย์), ดาเนี่ยล มาจส์โทโรวิช (เซลติก/สก็อตแลนด์) โยนาส โอสเซ่น (เวสบรอมฯ/อังกฤษ), เบราง ซาฟารี (บาเซิ่ล/สวิส), ออสคาร์ เวนท์ (โคเปนเฮเก้น/เดนมาร์ก)
กองกลาง : เอเมียร์ บาจ์รามี่ (ทเวนเต้/ฮอลแลนด์), ราสมุซ เอล์ม (อัล์คมาร์/ฮอลแลนด์), คิม คัลลส์ตรอม (ลียง/ฝรั่งเศส), เซบาสเตียน ลาร์สสัน (เบอร์มิงแฮม/อังกฤษ), มาร์ติน โอลส์สัน (แบล็คเบิร์น/อังกฤษ), อันเดอร์ส สเวนส์สัน (เอล์ฟส์บอร์ก), พอนตัส เวิร์นบลูม (อัล์คมาร์/ฮอลแลนด์), คริสเตียน วิลเฮล์มสัน (อัล-ฮิลัล/ซาอุฯ)
กองหน้า : โยฮัน เอลมานเดอร์ (กาลาตาซาราย/ตุรกี), อเล็กซานเดอร์ เกิร์นท์ (เฮลซิงบอร์ก/สวีเดน), โทเบียส ไฮเซ่น (โกเตนเบิร์ก/สวีเดน) ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (มิลาน/อิตาลี), โอล่า ทอยโวเน่น (พีเอสวี/ฮอลแลนด์)
Match Background
* หลังจากการพ่ายต่อ ฮอลแลนด์ 1-4 ทำให้ สวีเดน ต้องมุ่งเป้ายังที่ 2 ของกลุ่ม แต่ก็ต้องระวังหลังเมื่อฮังการี จี้ติดมาห่างแค่ 3 แต้ม ซึ่งถ้าพ่ายนัดนี้ก็อาจเสียสิทธิ์เพลย์ออฟได้
* ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 กันยายน ปีที่แล้ว ในนัดเปิดหัวกลุ่ม E สวีเดนได้ เวิร์นบลูม เหมาคนเดียว 2 เม็ด ให้ทีมประเดิมชัยไปก่อนในบ้าน 2-0
* สถิติโดยรวมของทั้งสองทีมค่อนข้างจะสู้สีเมื่อพบกันมาทั้งหมด 41 นัด ฮังการีชนะ 15 สวีเดนชนะ 16 และเสมอกัน 10 ครั้ง
* อย่างไรก็ตามการเจอกัน 6 ครั้งหลังสุด ฮังการีไม่เคยเอาชนะ สวีเดน ได้เลย ซึ่งชัยชนะล่าสุดต้องย้อนไปในปี 1995 เลยทีเดียว
* ฮังการีและสวีเดนพบกันล่าสุดในรายการนี้คือ ยูโร 96 ซึ่งสวีเดนชนะในบ้าน 2-0 และเสมอ 1-1 ที่บ้านฮังการี
* หลังจากยูโร 96 ทั้งสองทีมมาเจอกันอีกในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกอีก 4 นัด ซึ่งสวีเดน ชนะรวดทั้งหมด
