แมนฯยูไนเต็ด
"แชมป์เก่า"แมนฯยูไนเต็ด จบฤดูกาลที่แล้วด้วยความจ็บปวดเมื่อพ่ายต่อบาร์เซโลน่าในนัดชิงยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก แต่การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 19 ก็ทำให้ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผงาดขึ้นเป็นเบอร์ 1แห่งเกาะอังกฤษเหนือคู่ปรับอย่างลิเวอร์พูลอย่างภาคภูมิ
ก่อนที่ท่านเซอร์จะลงจากบัลลังก์ ในฤดูกาลนี้ก็มีเรื่องให้ปวดหัวเล็กน้อยเมื่อนักเตะหลักๆต้องแขวนสตั๊ดกันไปถึง 3 ราย คือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี่ เนวิลล์, พอล สโคลส์ รวมไปถึงผู้ที่ย้ายออกอย่าง เวส บราวน์,จอห์น โอเช และโอเว่น ฮาร์กรีฟ ทำให้แมนฯยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบหลายปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว แต่บรมครูแห่ง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดก็พาลูกทีมเปิดสนามในฤดูกาล 2011-12 ในเกมคอมมูนิตี้ชิลด์ให้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อพลิกแซงอริร่วมเมือง แมนฯซิตี้ไปแบบระทึก 3-2 คว้าโล่การกุศลก่อนประเดิมศึกพรีเมียร์ลีกได้
แมนฯยูไนเต็ดชุดนี้เป็นชุด"พลังหนุ่ม"อย่างเต็มตัว เมื่อมองจากการที่เฟอร์กี้ซื้อนักเตะเข้ามาเสริมในปีนี้ ไล่ตั้งแต่ ดาวิด เด เกอา นายทวารดาวรุ่งวัย 20 ปี ดีกรีมือหนึ่งทีมชาติสเปนชุดเล็กจากแอตฯมาดริด ฟิล โจนส์ ปราการหลังอนาคตไกลจากแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส คู่หูของคริส สมอลลิ่งในทีมชาติอังกฤษชุดเล็ก และแอชลี่ย์ ยัง ปีกวัย 25 ปี จากแอสตัน วิลล่า รวมไปถึงตัวหลักในฤดูกาลที่แล้วอย่าง เวย์น รูนี่ย์, นานี่และฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ทำให้อายุเฉลี่ยนักเตะในทีมค่อนข้างน้อยและพร้อมต่อยอดความสำเร็จของ"ปีศาจแดง"ไปอีกนาน
ปัญหาการขาดหายไปของ พอล สโคลส์ทำให้เกิดช่องโหว่ในแดนกลางและเป็นที่วิจารณ์กันว่าใครจะมาทำหน้าที่แทนมิดฟิลด์ผมแดงที่แขวนสตั๊ดไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เซอร์ อเล็กซ์ก็ตอบโจทย์นี้ในเกมคอมมูนิตี้ชิลด์ที่พบกับแมนฯซิตี้ ด้วยการส่งเจ้าหนู ทอม เคลฟเวอลี่ย์ กองกลางดาวรุ่งที่กลับมาหลังจากถูกส่งตัวไปฝึกวิชากับวีแกนในฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ชื่อของเวสลี่ย์ สไนเดอร์ ที่เป็นข่าวกับยูไนเต็ดมาตลอดทั้งเดือนเริ่มจะจางลงไป เมื่อรวมไปถึง เวย์น รูนี่ย์หรือแดนนี่เวลเบ็คที่สามารถผันตัวเองมาเล่นตัวรุกได้ ก็เท่ากับแมนฯยูไนเต็ดมีตัวเลือกในตำแหน่งนี้พอสมควร
แมนฯยูไนเต็ดมีผลงานในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในฤดูกาลที่แล้วอย่างยอดเยี่ยมเมื่อทำแต้มหล่นไปแค่ 2 นัดเท่านั้นจากการเสมอ เวสต์บรอมฯ 2-2 และพวกเขาหวังที่จะทำผลงานดีแบบเดิมในฤดูกาลนี้อีกครั้งรวมไปถึงการเล่นเกมเยือนให้ดียิ่งขึ้น หลังจากพลาดไปหลายนัดในฤดูกาลที่แล้ว และถ้าทำได้ จะเป็นงานหนักสำหรับผู้ท้าชิงในปีนี้อย่างแน่นอน
จากที่ดูแล้วฤดูกาลนี้ทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน น่าจะมุ่งเป้าไปที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเป็นหลักเพื่อโค่นบาร์ซ่าเป็นเจ้ายุโรป แต่ผลงานในลีก พวกเขาก็ต้องเน้นหนักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และมองจากสภาพความพร้อมของทีมในฤดูกาลนี้ มีโอกาสสูงมากที่"ปีศาจแดง"จะคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 20
คำทำนาย : แชมป์
แมนฯ ซิตี้
แมนฯ ซิตี้ หยุดการรอคอยที่ยาวนานกว่า 35 ปี ด้วยการคว้าโทรฟี่เอฟเอ คัพ เมื่อซีซั่นที่แล้ว รวมทั้งจบอันดับที่ 3 เมื่อคว้าตั๋วไปลุยชปล.เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ อาจจะมีข่าวน่าหวั่นใจอยู่เล็กน้อยเกี่ยวกับตัว คาร์ลอส เตเบซ ที่กำลังจะย้ายทีม แต่นั่นกลายเป้นเรื่องเล็กสำหรับเวลานี้ไปซะแล้ว เมื่อเศรษฐีเรือใบ จัดการคว้าตัว เซร์คิโอ อเกวโร่ หัวหอกจากแอต.มาดริด มาร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาล และยังไม่หมดแค่นั้นพวกเขาใกล้จะได้ตัว ซามีร์ นาสรี่ ดาวเตะเฟร้นช์แมนอีกราย
หลังจากที่มีทรัพยากรให้ใช้อย่างไม่อั้น จากนี้ไปก็จะเป็นหน้าที่ของกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ เพียงคนเดียวแล้ว ว่าจะใช้ของที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร เพื่อที่จะก้าวมาลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบเต็มตัว ซิตี้ น่าจะลงสนามด้วยความมั่นใจสูงขึ้น ภายหลังได้แชมป์เอฟเอ คัพ และน่าจะส่งผลให้พวกเขาโชว์ผลงานให้ดีมากขึ้นในลีก พวกเขาน่ากลัวกว่าเมื่อซีซั่นที่แล้วแน่นอน และจะกลานเป็นม้ามืดในการลุ้นแชมป์ปีนี้
คำทำนาย : รองแชมป์
เชลซี
ฤดูกาลใหม่กับกุนซือคนใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ถูกปลดเมื่อท้ายซีซั่นที่ผ่านมา ผลจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม ตั้งความหวังกับตัวเทรนเนอร์ อังเดร วิลลาส โบอาส ไว้สูงทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องการเรียกฟอร์มเก่งของ เฟร์นานโด ตอร์เรส กลับมา เพื่อเล่นให้เข้ากับ ดร็อกบา ให้ได้
ตอร์เรส ซึ่งอยู่ในฟอร์มห่างไกลกับคำว่าระดับโลก ภายหลังย้ายมาอยู่ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ถ้า โบอาส สามารถดึงศักยภาพของ ตอร์เรส ออกมาได้เหมือนสมัยค้าแข้งให้ "หงส์แดง" เชลซี ไปโลดแน่ นอกจากนี้กุนซือวัย 33 ยังหวังจะซิวถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก อันเป็นความหวังสูงสุดยอง "เสี่ยหมี" อีกด้วย แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกที่โบอาส ต้องทำคือการหาตัวแทนบรรดาหัวโจกของทีมอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ จอห์น เทอร์รี่ ที่นับวันจะแก่ตัวลง
ดาวรุ่งทั้ง จอช แม็คอีชแรน มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในตำแหน่งมิดฟิลด์ เช่นเดียวกับ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกที่กำลังอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพ และดาวยิงตัวใหม่ โรเมลู ลากากู จากอันเดอร์เลชท์ ที่เข้ามาเป็นตัวความหวังใหม่ในถิ่นเดอะ บริดจ์
ไม่ควรกาชื่อของ เชลซี ออกจากการลุ้นแชมป์ โดยเฉพาะถ้าพวกเขาสามารถคว้าตัวโมดริช มาร่วมทีมได้ แต่ถ้าจะมองถึงแชมป์อาจจะยากนิด อย่างไรก็ตาม ด้วยมันสมองของ วิลลาส โบอาซ "สิงห์บลูส" น่าจะมีถ้วยรางวัลติดมืออย่างน้อยหนึ่งใบ และอาจจะเป็นแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็เป็นได้!!!
คำทำนาย : อันดับ 3
ลิเวอร์พูล
เคนนี่ ดัลกลิช ถูกสื่อมวลชนจับตามองมากเป็นพิเศษ ก่อนพาทีมลงทำศึกพรีเมียร์ลีก หลังจากหว่านเม็ดเงินร่ม 100 ล้านปอนด์ กระชากแข้งดังมาร่วมทัพหลายรายทั้ง จอร์แดน เฮ็นเดอร์สัน, ชาร์ลี อดัม และ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ผสมโรงกับเมื่อช่วงต้นปีที่เซ็นสัญญา แอนดี้ คาร์โรลล์ กับ หลุยส์ ซัวเรซ 2 หัวหอกค่าตัวแพง
ภายหลังที่กุนซือชาวสกอตต์ตกลงเซ็นสัญญาคุมทีมแอนฟิลด์ในระยะยาว เขาจะต้องมาปรับตัวใหม่หมด เพราะงานผู้จัดการทีมสมัยนี้ แตกต่างจาก 20 ปีก่อนมากนัก และที่สำคัญแรงกดดันภายนอกที่เยอะกว่าสมัยก่อนหลายเท่า และคิงเคนนี่ จะรับมันไหวไหม? เพราะขนาดเมื่อก่อนที่ว่าเทียบกันไม่ได้ ดัลกลิช ยังต้องยกธงขาวมาแล้ว
มาดูรวมภายในทีม "หงส์แดง" อาจจะมีช่วงเวลาที่ไม่ดีนักระหว่งเกมอุ่นเครื่องปรี-ซีซั่น แต่พวกเขากำลังจะได้ หลุยส์ ซัวเรซ กลับมา เกมรุกน่าจะหลากหลายขึ้น เช่นเดียวกับแดนกลางที่มี สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง คอยป้อนบอลจากริมเส้นให้ แอนดี้ คาร์โรลล์ ดจมตีทางอากาศ ขณะที่ เฮ้นเดอร์สัน กับ อดัม จะช่วยกันคุมเกมตรงกลางสนาม และถ้า สตีวี่ จี ฟิตกลับมา ลิเวอร์พูล จะเป็นทีมที่มีมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบทีเดียว
จอห์ ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ เจ้าของทีม ประกาศิตมายังดัลกลิชแล้วว่า ต้องจบที่ 1 ใน 4 เท่านั้น แต่สิ่งที่ "คิง เคนนี่" ยังไม่ทำการแก้ไขก็คือ ตำแหน่งแบ็กซ้าย และ ปราการหลังตัวกลาง และถ้า ดัลกลิช ดึงผู้เล่นชื่อดังในตำแหน่งดังกล่าวเข้ามาได้ "หงส์แดง" มีสิทธิ์เบียดอาร์เซน่อล กับ สเปอร์ส ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ได้เลย
คำทำนาย : อันดับ 4
อาร์เซน่อล
เป็นฤดูกาลหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับอาร์แซน เวนเกอร์ อย่างแท้จริง หลังจากที่พลาดแชมป์ 4 รายการในรอบไม่กี่วันเมื่อซีซั่นก่อน เป็นเครื่องบั่นทอนสภาพจิตใจนักเตะดีแท้ และเท่ากับว่า 6 ปีหลัง "เดอะ กันเนอร์ส" ไม่มีถ้วยรางวัลมาประดับตู้โชว์แม้แต่ใบเดียว แน่นอนว่าปีนี้นับเป็นไฮไลท์สำคัญสำหรับอนาคตของกุนซือเฟรนช์แมน
อนาคตของฟาเบรกาส ที่กำลังจะเดินออกจากรั้วเอมิเรตส์ เช่นเดียวกับ ซามีร์ นาสรี่ ที่ยังไม่มีความแน่นอน และอาจจะไปอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ในไม่ช้า ถึงแม้จะได้ตัวใหม่อย่าง แซร์วินโญ่ เข้ามาเสริมเกมรุก กับ อเล็กซ์ แชมเบอร์เลน ดาวรุ่งอนาคตไกล แต่มันกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับแฟนบอลไปแล้ว เพราะทุกๆปีจะเห็นเวนเกอร์ เซ็นแข้งวัยรุ่นมาปั้น แต่ไม่มีรางวัลติดมือ สุดท้ายดาวเตะเหล่านั้นก็ต้องย้ายออกไป วนเวียนอยู่แบบนี้ สิ่งที่สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ต้องการก็คือความสำเร็จแบบ"ปัจจุบันทันด่วน"
จุดที่ต้องแก้ไขอันดับต้นๆของทีมก็คือ ตำแหน่งปราการหลังตัวกลางกับมิดฟิลด์ที่เล่นดุดันต่างหาก แต่ดูเหมือนว่าปัญหาตรงนี้กำลังถูกมองข้าม ยิ่ง ฟาเบรกาส กำลังจะไปอยู่สเปน จุดบอดเพิ่มากขึ้น โอกาสประสำความสำเร็จมีเปอร์เซนต์น้อยมาก แต่ขุมกำลังของเด็กปืนยังเหนือกว่าหลายๆทีมในพรีเมียร์ลีก พวกเขามีสิทธิ์จบที่ 4 แต่ถ้าผิดจากนั้น มันน่าจะเป็นการรูดลงมากกว่าจะไต่ขึ้น
คำทำนาย : อันดับ 5
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
เมื่อฤดูกาลที่แล้วถือเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจของทางสเปอร์ ด้วยการเอาชนะ สโมสร เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน จากอิตาลี จนทะลุเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายรายการ แชมเปียน ลีก ซึ่งผลงานดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากฟอร์มอันโดดเด่นของ ลูกา โมดริช และในช่วงที่ผ่านมา เชลซีพยายามอย่างมากในการดึงตัว โมดริช มาร่วมถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ให้ได้
ทางกุนซือ แฮรี่ เรดแนปป์ และดาเนียล เลวี ประธานสโมสร ก็ยังพยายามยื้อตัวนักเตะชาวโครแอต รายนี้ไว้กับสโมสรต่อไป ซึ่งถ้า "ไก่เดือยทอง"สูญเสีย โมดริช ไปจะไม่สามารถก้าวหน้าไปจากตรงนี้ได้ และที่สำคัญ สำหรับสโมสร "ลูก้าไม่ได้มีไว้ขาย" ทั้งนี้ความกังวลในเรื่องนี้ก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่การได้ แบรด ฟรีเดล ผู้รักษาประตูเข้ามาถือเป็นการดึงตัวที่ดี จากผลงานที่ไม่แน่นอนของ ฮูริโอ้ โกเมส ผู้รักษาประตุมือหนึ่งชาวบราซิล แต่ว่าทางโกเมส ก็ยังคงเป็นตัวเลือกแรกสำหรับเร้ดแนปป์ อยู่ทั้งยังคงสามารถดึงตัว ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต ไว้ได้ในการเจรจากับทาง รีล มาดริด ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าหาก โมดริชยังอยู่กับสโมสร สเปอร์ก็น่าที่จะไต่อันดับไม่ต่ำกว่าที่ 6 ของลีกหรืออาจขึ้นไปติด 1 ใน 4 ทีมหัวแถว แม้แต่อาจจะเก็บได้ซัก 1 ถ้วยในฤดูกาลนี้
คำทำนาย : อันดับที่ 6
เอฟเวอร์ตัน
อีกหนึ่งฤดูกาลที่ปราศจากเม็ดเงินเพื่อจับจ่ายสำหรับ เดวิด มอยส์ ทั้งที่ บทเรียนเมื่อต้นปีที่แล้วสอนให้พวกเขารู้ว่าช่วงเวลาที่ย่ำแย่ควรได้รับการแก้ไข อย่างไรก็ตาม ฝีมือระดับ มอยส์ เขาสามารถพาทีมฝ่าฟันอุปสรรค จนจบที่อันดับ 7 และสามารถปราบทีมใหญ่ทั้ง ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส, แมนฯ ซิตี้ และ เชลซี ลงได้
คำถามก็คือมอยส์จะสามารถรักษามาตราฐานของทีมที่ไม่มีการเสริมทัพในทุกๆปีไปได้นานแค่ไหน? มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะเห็นทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์เกาะกลุ่มท็อปโฟร์ นอกเสียจากว่าสโมสรจะมีสถานะการเงินที่ดีขึ้น ทั้งนี้กุนซือชาวสกอตต์ จะต้องไม่เสียแข้งหลักเพิ่ม โดยเฉพาะ ฟิล จากิลก้า ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายของอาร์เซน่อล เช่นเดียวกับ แจ๊ค ร็อดเวลล์ ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ และ รอสส์ บาร์คเล่ย์ อีกหนึ่งผลผลิตรายใหม่ในถิ่นกูดิสัน ปาร์ค
พวกเขาจะมีอันดับดีกว่าฤดูกาลก่อนหรือไม่? มองจากภาพรวมมันไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่แน่นอนพวกเขายังอันตรายเสมอในฟุตบอลถ้วย
คำทำนาย : อันดับ 7
แอสตัน วิลล่า
อเล็กซ์ แม็คลีช ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต หลังจากที่ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเบอร์มิ่งแฮม และเดินเข้ามารับงานในถิ่น วิลล่า ปาร์ค ทันที ซึ่งอย่างที่รู้ว่าทั้งคู่เป็นอริกันมาช้านาน กุนซือชาวสกอตต์ ต้องเจอเรื่องยุ่งยากใจเล็กน้อย ภายหลังทีมเสียสองคีย์แมนออกไปทั้ง แอชลี่ย์ ยัง กับ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ที่เลือกจากไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ตามลำดับ
อย่างน้อย แม็คลีช ยังพอมีเม็ดเงินเข้ามาหมุนอยู่บ้างจากการขาย 2 สตาร์ดังกล่าวออกไป และต้องชมฝีมือของอดีตโค้ช "ตราลูกโลก" เพราะผู้เล่นที่ดึงเข้ามาอย่าง ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย หรือ เชย์ กิฟเว่น มือกาวที่มาแทน แบร็ด ฟรีเดล ในราคาเพียง 3.5 ล้านปอนด์ ถือเป็นการทำธุรกิจที่ดีมาก
วิลล่า ถือเป็นทีมที่มีอนาคตสดใสรออยู่ ถ้าหาก ดาร์เรน เบนท์ เล่นได้เข้าฟอร์ม และ มาร์ค อัลไบรจ์ตั้น ดาวรุ่งของทีมสามารถรักษามาตราฐานของตัวเองเอาไว้ได้ "สิงห์ผงาด" ก็มีลุ้นผงาดติดเลขตัวเดียวเหมือนกัน
คำทำนาย : อันดับ 8
สโต๊ค ซิตี้
"ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมมากในปีที่แล้ว เมื่อคว้าอันดับที่ 13 ในลีก และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพภายใต้การคุมทีมของกุนซือโทนี่ พูลิส
พวกเขาพลาดหวังต่อการคว้าแชมป์รายการใหญ่ในรอบหลายปีให้กับสโมสร เมื่อพลาดท่าแพ้ต่อแมนฯซิตี้ในนัดชิงที่เวมบลีย์ แต่ในฤดูกาลนี้ สโต๊คต้องลืมความผิดหวังและผลงานในฤดูกาลที่แล้วให้ได้ทั้งหมดและเริ่มนับหนึ่งใหม่กับพรีเมียร์ลีก 2011-12 ที่จะเริ่มในเดือนสิงหาคมนี้ โดยเฉพาะเมื่อหลายทีมเริ่มจับทางการเล่นของทีมจากบริทาเนียได้แล้ว เช่น การใช้ปีกทั้งสองข้างเป็นตัวขึ้นเกมทั้ง เจอร์แมน เพนเนนท์ทางกราบขวาและแม็ทธิว เอเธอร์ริงตันคอยโจมตีฝั่งซ้าย โดยมีเป้าหมายในแดนหน้าอยู่ที่เควิน โจนส์กองหน้าจากตรินิแดด หรือการเล่นลูกตั้งเตะที่มีโรเบิร์ต ฮูธกองหลังร่างยักษ์ของทีม รวมไปถึงอาวุธหนักอย่างลูกทุ่มไกลจาก รอลี่ ดีแล็ปอีกด้วย
สำหรับการเสริมทัพในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลนั้น สโต๊คได้นักเตะมาแค่รายเดียวคือ โจนาธาน วู๊ดเกต กองหลังกระดูกเปราะจากสเปอร์สที่เซ็นมาฟรี และคาดว่าน่าจะเป็นอะไหล่สำหรับทีม ทำให้รายชื่อผู้เล่นในทีมของทีมปั้นหม้อยังเป็นผู้เล่นชุดเดิมจากฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งแม้จะมีหลายทีมเริ่มจับทางได้อย่างที่เกริ่นไปนั้น ก็อาจมีจุดดีตรงที่ทีมเวิร์คของทีมน่าจะลงตัวมากขึ้นจากผู้เล่นหน้าเก่าๆ แต่อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ โคทส์ เจ้าของทีมก็ยังยินดีที่จะมีงบประมาณให้โทนี่ พูลิสนายใหญ่จับจ่ายใช้สอยในการหาตัวนักเตะมาเพิ่มอีก
บรรยากาศในทีมของสโต๊คกำลังยอดเยี่ยมหลังจากที่พวกเขาทำผลงานได้ดีในฤดูกาลที่แล้ว และน่าจะทำได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้ เมื่อดูถึงผู้เล่นเก่าๆที่ยังอยู่กันครบ และถ้าหากพูลิสเสริมทัพได้ตรงจุดอีกสองหรือสามตำแหน่งก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ช่างปั้นหม้อทำเซอร์ไพรส์ด้วยการจบฤดูกาลที่เลขตัวเดียว
คำทำนาย : อันดับ 9
ซันเดอร์แลนด์

ซันเดอร์แลนด์ของสตีฟ บรูซ จบฤดูกาลแบบเซ็งๆเมื่อรูดลงมาอยู่ที่ 10 หลังจากมีลุ้นไปลุยยุโรปอยู่พักหนึ่ง หลังจากการขายดาเรน เบนท์ไปให้กับแอสตันวิลล่า ด้วยราคาถึง 24 ล้านปอนด์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สันให้กับลิเวอร์พูล ด้วยราคาประมาณ 16 ล้านปอนด์ ทำให้ทีม"แมวดำ"มีงบประมาณเสริมทัพในฤดูกาลใหม่นี้อย่างมากพอสมควรเลยทีเดียว
สตีฟ บรูซ มีงบจากการขายสองนักเตะไปถึง 40 ล้านปอนด์ ทำให้ฤดูกาลนี้ "แมวดำ"ลุยตลาดซื้อ-ขายได้อย่างสบายใจและมีนักเตะหลายรายตบเท้าเข้าสู่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ไล่ตั้งแต่เวส บราวน์และจอห์น โอเช สองกองหลังจากแมนฯยูไนเต็ด, คอนนอร์ วิคแฮม ดาวยิงอนาคตไกลจากอิปสวิช เซบาสเตียน ลาร์สัน และเคร็ก การ์ดเนอร์ สองนักเตะจากเบอร์มิงแฮม ทำให้แน่นอนว่าซันเดอร์แลนด์ในฤดูกาลหน้านี้จะมีรูปโฉมเปลี่ยนไปค่อนข้างมากเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทีมจะมีนักเตะเข้าหลายราย แต่เมื่อพิจารณาถึงนักเตะที่ออกไปตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วอย่าง ดาเรน เบนท์และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หรือจะรวมไปถึงแดนนี่ เวลเบ็คที่หมดสัญญายืมตัว ถือว่าเป็นตัวหลักๆทั้งสิ้น ซึ่งตรงจุดนี้ทีมจากแดนอีสานมีปัญหาแน่นอนในการหานักเตะมาทดแทน ดังนั้นถือว่าเป็นการเสี่ยงพอสมควรในการรอนักเตะใหม่ใช้ระยะเวลาปรับตัว หรือในแดนหน้าที่คอนนอร์ วิคแฮม ถือว่ายังอ่อนประสบการณ์สำหรับลีกสูงสุดอยู่พอสมควรหากจะมาล่าตาข่ายทดแทนการขาดหายไปของ ดาเรน เบนท์
สตีฟ บรูซ นายใหญ่ของซันเดอร์แลนด์น่าจะมีปัญหาในช่วงแรกเมื่อผู้เล่นหลายรายน่าจะต้องใช้เวลาจูนกันสักพัก ทีมเวิร์คของทีมน่าจะอ่อนลงไปจากฤดูกาลที่แล้วพอสมควรในช่วงแรก แต่ด้วยผู้เล่นที่เข้ามาใหม่ก็ถือว่าดูดีอยู่พอสมควรและทุกรายมีประสบการณ์กับฟุตบอลอังกฤษทั้งสิ้น ทำให้ไม่น่าจะเป็นการยากนักในการปรับตัว ซึ่งถ้าต่อกันติดก็อาจจะทำอันดับได้ดีในฤดูกาลนี้
คำทำนาย : อันดับ 10