วิเคราะห์บอล ยูโร 2012 อังกฤษ -vs- สวิตเซอร์แลนด์

ผลการพบกันของทั้งสองทีม
08/09/10  สวิตเซอร์แลนด์ แพ้ อังกฤษ   1-3
07/02/08  อังกฤษ ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-1
17/06/04  อังกฤษ ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-0
25/03/98  สวิตเซอร์แลนด์ เสมอ อังกฤษ   1-1
08/06/96  อังกฤษ เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1
15/11/95  อังกฤษ ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-1
30/05/81  สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ อังกฤษ   2-1
19/11/80  อังกฤษ ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2-1
10/11/71  อังกฤษ เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1
13/10/71  สวิตเซอร์แลนด์ แพ้ อังกฤษ   2-3

ผลงานที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่ม
อังกฤษ
04/09/10  ชนะ บัลแกเรีย 4-0 (เหย้า)
08/09/10  ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 3-1 (เยือน)
13/10/10  เสมอ มอนเตเนโกร 0-0 (เหย้า)
26/03/11   ชนะ เวลส์  2-0 (เยือน)

สวิตเซอร์แลนด์
08/09/10 แพ้ อังกฤษ  1-3 (เหย้า)
09/10/10 แพ้ มอนเตเนโกร 0-1 (เยือน)
13/10/10 ชนะ เวลส์  4-1 (เหย้า)
26/03/11 เสมอ บัลแกเรีย 0-0 (เยือน)

ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
อังกฤษ
13/10/10 เสมอ มอนเตเนโกร 0-0 (เหย้า) คัดยูโร 2012 / ต่อ 1.75 ... เสีย
18/11/10 แพ้ ฝรั่งเศส  1-2 (เหย้า) อุ่นเครื่อง / ต่อ ปป ... เสีย
10/02/11 ชนะ เดนมาร์ก 2-1 (เยือน) อุ่นเครื่อง / ต่อ 0.5 ... บวก
26/03/11 ชนะ เวลส์  2-0 (เยือน) / คัดยูโร 2012 / ต่อ 1.25 ... บวก
30/03/11 เสมอ กานา  1-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง / ต่อ 0.5 ... เสีย

สวิตเซอร์แลนด์
09/10/10 แพ้ มอนเตเนโกร 0-1 (เยือน) คัดยูโร 2012 / เสมอ ... เสีย
13/10/10 ชนะ เวลส์  4-1 (เหย้า) คัดยูโร 2012 / ต่อ 1 ... บวก
18/11/10 เสมอ ยูเครน  2-2 (เหย้า) อุ่นเครื่อง / ต่อ ปป ... เสียครึ่ง
10/02/11 เสมอ มอลตา  0-0 (เยือน) อุ่นเครื่อง / ต่อ 1.75 ... เสีย
26/03/11 เสมอ บัลแกเรีย 0-0 (เยือน) คัดยูโร 2012 / รอง ปป ... บวกครึ่ง

"สิงโตคำราม" ยังไม่แพ้ใครในรอบคัดเลือกและน่าจะเปิด เวมบลีย์ ปิดบัญชี สวิส ลงไม่ยาก"

พรีวิว & สภาพความพร้อมล่าสุด

             ฟาบิโอ คาเปลโล่ เทรนเนอร์ทัพ "สิงโตคำราม" มีคิวพาทีมเปิด เวมบลีย์ รับการมาเยือนของ สวิตเซอร์แลนด์ ในเกมคัด ยูโร 2012 โดยสถานการณ์ล่าสุดของ อังกฤษ ถือว่าโชว์ฟอร์มสมราคาทีมเต็ง เพราะรั้งตำแหน่งจ่าฝูงจากผลงานชนะ 3 เสมอ 1 มี 10 แต้ม แต่เกมนี้ยังเพลาเครื่องไม่ได้ เนื่องจากทีมอันดับ 2 มอนเตเนโกร มีคะแนนเท่ากันและเป็นรองทีมผู้ดีแค่ประตูได้-เสีย เท่านั้น

             ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์แบ็ก แมนฯยูไนเต็ดและ บ๊อบบี้ ซาโมร่า ศูนย์หน้า ฟูแล่ม ถูกเรียกตัวกลับมาติดธงครั้งแรกในปี 2011 หลังจากที่ถูกอาการบาดเจ็บเรื้อรังเล่นงานจนหลุดโผไปพักใหญ่ แต่ในรายของ เวย์น รูนี่ย์ แข้งดังอีกรายจากค่าย "ปีศาจแดง" ไม่มีเอี่ยวกับศึกนี้เพราะติดโทษแบน ส่วนคู่หน้าสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทั้ง ปีเตอร์ เคร้าช์และ เจอร์เมน เดโฟ บาดเจ็บและขอถอนตัวไปแล้วทั้งคู่

             เช่นเดียวกับ ไมเคิ่ล คาร์ริค มิดฟิลด์ แมนฯยูและนายทวาร เดวิด สต๊อคเดล ที่ถูกไข้เดี้ยงเล่นงานจนต้องโบกมือลาไปเช่นกัน โดย คาเปลเล่ ไม่ได้ตระหนกกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะดึงนายทวาร โรเบิร์ต กรีน มาเสริมทัพเพิ่มเพียงรายเดียว ขณะที่คู่แนวรุก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทั้ง แอนดี้ แคร์โรลล์และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็ถูกหางเลขจากอาการบาดเจ็บรังควานจนหลุดโผทีมชุดนี้
 
             คาดการณ์ว่ากุนซือชาวอิตาเลี่ยนจะปรับโผตัวจริงจากเกมบุกทุบ เวลส์ 2-0 ในเดือน มีนาคม เพียงสองจุด โดยส่ง เฟอร์ดินานด์ ลงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ จอห์น เทอร์รี่ แทน ไมเคิ่ล ดอว์สัน ส่วนแนวรุก ธีโอ วัลค็อตต์ ดูมีภาษีเหนือ เจมส์ มิลเนอร์และ อดัม จอห์นสัน กับตำแหน่งของ รูนี่ย์ โดย อังกฤษ จะมาในแผน 4-3-3 ส่ง วัลค็อตต์กับ แอชลี่ย์ ยัง ขึ้นเกมรุกด้านข้างสนับสนุนตัวเป้า ดาร์เรน เบนท์
 
            อ๊อตต์มาร์ ฮิตซ์เฟลด์ บอสใหญ่ชาวเยอรมันของ สวิตเซอร์แลนด์ จำเป็นต้องพาทีมบุกหยิบผลเสมอที่เมืองผู้ดีให้ได้เป็นอย่างน้อย เพื่อรักษาช่องว่างระหว่างคะแนนไม่ให้ห่างมากไปกว่านี้และสานต่อความหวังในการลุ้นเข้ารอบหลังจากที่ผ่านมาครึ่งทาง โดยตลอดการลงสนาม 4 เกมที่ผ่านมาแข้งสวิสเพิ่งเก็บชัยชนะได้ครั้งเดียว

            ก่อนเกมกุนซือเมืองเบียร์แย้มไต๋ว่าจะส่งแนวรับชุดเจ๊า บัลแกเรีย โนสกอร์ ลงเล่นต่อ ประกอบด้วย สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์, สตีฟ ฟอน เบอร์เก้น, สเตฟาน กริชติ้งและ เรโต้ ซีกเลอร์ นั่นหมายความว่าทั้ง ฟิลิปป์ เซนเดอรอสและ โยฮัน ฌูรู อดีตเพื่อนร่วมสังกัด อาร์เซน่อล จะต้องรอโอกาสบนม้านั่งสำรองไปก่อน

            ขยับมาที่แดนกลางนำทัพโดย ก็อคฮาน อินเลอร์ มิดฟิลด์ อูดิเนเซ่ ที่รับช่วงสวมปลอกแขนกัปตันทีมคนใหม่ต่อจาก อเล็กซานเดอร์ ฟราย โดย อินเลอร์ จะขับเคลื่อนเกมร่วมกับ วาลอน เบห์รามีและ เกลสัน แฟร์น็องเดซ โดยมี ทรานควิลโล่ บาร์เน็ตต้าและ เซอร์ดาน ชากีรี่ ป่วนแบ็กสองข้างของเจ้าบ้าน ส่วนหน้าเป้าส่ง อีเรน เดอร์ดิย็อค ดาวยิง เลเวอร์คูเซ่น ลงปิดบัญชี
 
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

             ทีมชาติอังกฤษ (4-3-3) : โจ ฮาร์ท - เกล็น จอห์นสัน, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สก๊อต พาร์เกอร์, แจ็ค วิลเชียร์ - ธีโอ วัลค็อต, ดาร์เรน เบนท์, แอชลี่ย์ ยัง

 
             ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ (4-5-1) : มาร์โก โวลฟี - สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์, สตีฟ ฟอน เบอร์เก้น, สเตฟาน กริชติ้ง, เรโต้ ซีกเลอร์ - ทรานควิลโล่ บาร์เน็ตต้า, วาลอน เบห์รามี, ก็อคฮาน อินเลอร์, เกลสัน แฟร์น็องเดส, เซอร์ดาน ชากีรี่ - อีเรน เดอร์ดิย็อค
 
ซอคเกอรูส์ ชี้ช่องรวย

 การเรียงหน้าถอนตัวของเหล่าซูเปอร์สตาร์ที่ถูกไข้เดี้ยงเล่นงานอาจทำให้สีสันของขุมกำลัง "สิงโตคำราม" ไม่หวือหวาเหมือนที่เคย แต่กระนั้น คาเปลโล่ ก็ยังมีทางเลือกให้ชดเชยอย่างมากมายและคุณภาพแต่ละรายก็ถือว่าอยู่ชั้นแนวหน้าของพรีเมียร์ลีกแทบทั้งนั้น ดูท่าแล้วงานของ สวิส ก็คงจะยากเหมือนเดิม เพราะมาตรฐานเป็นรอง แถมต้องมาเล่นนอกบ้านในช่วงขาลงอีกด้วย โดยปัญหาของทีมยุคผลัดใบของ ฮิตซ์เฟลด์ คือ แนวรุกแสนฝืด เนื่องจากไม่มีเพชฌฆาตที่ฝากผีฝากไข้ได้ ไม่ว่ามองมุมไหนชั่วโมงนี้ สวิส ก็ไม่น่าจะต้านความฮึกเหิมของ อังกฤษ ที่ต้องการชัยชนะเพื่อยืดบัลลังก์จ่าฝูงได้ครบ 90 นาที

เดิมพันน่าสนใจ : "ต่อ อังกฤษ ลูกควบ"
ระดับความมั่นใจ : "8/10"
ผลบอลที่คาด : สิงโตเขมือบ 2-0